จากกรณีที่เพจดัง “อยากดังเดี๋ยจัดให้ รีเทริน์ Part 6 ” ได้นำคลิปของผู้ใช้บริการรถสาธารณะรายหนึ่ง ที่ออกมาโพสตำหนิถึงมาตรฐานด้านความปลอดภัย โดยระบุว่า (ผู้โดยสารจะเชื่อมั่นในความปลอดภัยได้อย่างไร…ยางแตกแต่ฝืนวิ่ง บขส.แปดริ้วฉะเชิงเทรา รถยางแตก แผ่นปิดรูกระเด็นขึ้นมาดีนะที่มีกระเป๋าปิดไว้ ไม่งั้นโดนขาเต็มๆ แต่ยังไม่ยอมจอด เพื่อเอารถมาเปลี่ยน แต่ยังขับต่อเพื่อไปเปลี่ยนที่สถานีขนส่ง ความปลอดภัยผมอยู่ตรงไหน?? ทำไมไม่มีการเช็คสภาพรถก่อนได้บริการ แย่มากๆ) ทำให้วันนี้นายสุนทรวุฒิ สุพรหมมา นักวิชาการขนส่งชำนาญการ พร้อมด้วย นายช่างตรวจสภาพรถ และเจ้าหน้าที่สำนักงานขนส่งจังหวัดฉะเชิงเทรา เดินทางเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ยังสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดฉะเชิงเทรา
โดยได้พบกับนายธนภัทร สันทัดค้า อายุ 30 ปี ผู้ประกอบการรถร่วม บขส. สาย 9916 วิ่งระหว่าง อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ไปยังสถานีขนส่งผู้โดยสารหมอชิต กรุงเทพมหานคร โดยเล่าให้ฟังว่า วันที่เกิดเหตุเป็นวันเสาร์ที่ 27 พฤษภาคม 2566 รถบัส 6 ล้อ สาย 9916-26 ม.2ต ที่มีนายพรมมะทา ทาเงิน เป็นคนขับ ได้ขับรถออกมาจากอรัญประเทศกำลังจะมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพมหานคร พอมาถึงหน้ามัสยิดกลางฉะเชิงเทรา ถนนมหาจักรพรรดิ ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา ซึ่งขณะนั้นห่างจากสถานีขนส่งประมาณ 1 กิโลเมตร ก็ได้เกิดยางหลังฝั่งขวาระเบิด ซึ่งอาจเกิดจากยางไปเหยียบทับของมีคม ทำให้ยางแตก นายพรมมะทา จึงได้โทรศัพท์ประสานมายังบริษัท ทางบริษัทได้บอกให้เข้ามาที่สถานีขนส่งเพื่อมาเอายางอะไหล่ไปเปลี่ยน แล้วก็นำผู้โดยสารไปเปลี่ยนถ่ายขึ้นรถคันใหม่ เพื่อเดินทางต่อเข้ากรุงเทพ โดยใช้เวลาเปลี่ยนยางอะไหล่อยู่ประมาณ 15 นาที ก็สามารถเดินทางต่อไปได้ ซึ่งได้ชี้แจงกับผู้โดยสารเป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว และก็ไม่เห็นมีผู้โดยสารคนใดที่ท่าทีไม่พอใจแต่ประการใด ส่วนประเด็นที่มีผู้โดยสารระบุว่ามีแผ่นปิดกระเด็นขึ้นมา
ทางเจ้าหน้าที่ขนส่งได้เข้าทำการตรวจสอบแล้ว พบว่าแผ่นดังกล่าวถูกปิดอย่างแน่นหนา โดยมีน็อตหกเหลี่ยมหมุนล็อคปิดไว้ทั้ง 4 ด้าน จึงไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จะกระเด็นขึ้นมา ที่สำคัญไม่มีส่วนที่เกี่ยวข้องกับยางที่แตกเลยแม่แต่นิดเดียว แต่เสียงของเศษยางที่แตกอาจกระทบกับพื้นที่อยู่ด้านใต้ เลยทำให้มีเสียงดัง จนดูเหมือนว่ามีบางสิ่งกำลังจะกระเด็นออกมาก็เป็นไปได้ ส่วนยางรถทั้ง 6 เส้นที่ใช้ในการวิ่ง ตรวจสอบแล้วอยู่ในสภาพปกติดี ไม่มีการชำรุดเสียหายแต่ประการใด ด้านนายพรมมะทา โชเฟอร์คนขับรถร่วม บขส.คันดังกล่าว เปิดเผยว่า หลังทราบว่ายางแตก ตนเองได้บอกกับผู้โดยสารไปแล้ว ว่ารถเกิดยางแตก แต่ไม่เป็นอะไร เพราะเนื่องจากล้อหลังมีข้างละ 2 ล้อ จึงขอวิ่งแบบช้าๆ เพื่อไปเปลี่ยนที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร เพราะห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กม.เท่านั้น ซึ่งก็ไม่เห็นผู้โดยสารคนไหนว่าอะไรเลย แล้วตนเองก็ขับรถมาช้าๆ ตามที่ปรากฏ