จากสถานการณ์โควิด19ที่ยืดเยื้อมาปีกว่า ทำให้หลายคนต้องปรับเปลี่ยนและหาอาชีพเสริมและอาชีพใหม่เพื่อความอยู่รอดและบางคนสามารถพลิกวิกฤติเป็นโอกาสสร้างรายได้จากอาชีพใหม่มากกว่าอาชีพ เช่น นายเจษฏา ทองกรด อายุ32ปี ซึ่งเดิมเป็นนักร้องและแดนซ์เซอร์ประจำอยู่ที่สถานบันเทิงบ้านด่านนอก ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา เมืองท่องเที่ยวชายแดนไทยมาเลเซีย ได้เงินเดือน 15,000 บาท แต่หลังจากที่เกิดสถานการณ์โควิด19 ทำให้สถานบันเทิงต้องปิดตัวและตกงาน สุดท้ายก็ลองหันมาเปิดร้านขายน้ำมะพร้าวปั่นนมสดและร้านส้มตำชื่อว่า ร้านเจตน์ ตำคำเมือง ที่บ้านเกิดในพื้นที่บ้านการใหญ่หรือคลองเคียนหมู่ที่14 ถนนสายรัตภูมิ-วัดทุ่งมะขาม ต.คูหาใต้ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ร่วมกับเพื่อนสนิทที่เป็นแดนซ์เซอร์อยู่ด้วยกันและกลายเป็นมามือตำส้มตำมือหนึ่งของร้าน
โดยเปิดมาได้ประมาณ1ปี ผลตอบรับดีเกินคาดขายได้วันละ 5,000-6,000 บาท และรับเงินสดทุกวันต่างจากอาชีพนักร้องและแดนซ์เซอร์ที่เคยทำซึ่งรับเป็นเงินเดือน และยังรับหลานมาทำงานช่วยงานที่ร้านด้วย2คน และที่ร้านก็เป็นผู้ชายทั้งหมด เมนูก็มีหลากหลายโดยส้มตำมีกว่า 40 เมนูราคาตั้งแต่40-80 บาทให้เลือก ลาบ ไก่ย่าง แหนมย่างลูกชิ้นย่าง น้ำมะพร้าวปั่นนมสดและเครื่องดื่มๆต่างๆโดยมีลูกค้าในหมู่บ้านทั้งมาซื้อที่หน้าร้านโทรมาสั่งทางโทรศัพท์และผ่านแอปรวมทั้งมีบริเวณเดลิเวอรี่รับส่งถึงบ้าน เปิดตั้งแต่9โมงถึง6โมงเย็น
นายเจษฎา บอกว่า ตอนนี้น่าจะไปกลับไปทำอาชีพนักร้องและแดนซ์เซอร์อีกแล้วแม้ว่าจะเป็นอาชีพที่รักและทำมานาน แต่ด้วยวัยและอาชีพตอนนี้ซึ่งอยู่รายได้และเป็นธุรกิจส่วนตัวมีอิสระจึงอาจจะทำเป็นอาชีพหลัก ด้าน นางนัยนา ทองกรด แม่ของนายเจษฎา บอกว่า ดีใจที่ลูกชายได้กลับมาอยู่ที่บ้านไม่ต้องไปทำงานที่อื่นสามารถพลิกวิกฤตจากได้รับผลกระทบจากโควิด19 จนเอาตัวรอดได้
นภาลัย ชูศรี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สงขลา