วันที่ 17 สิงหาคม 2564 ที่ศาลแพ่ง นายพิทักษ์ โยธา นายกสมาคมจารวีเพื่ออนุรักษ์นวดแผนไทย พร้อมด้วย กลุ่มผู้ประกอบการร้านนวดแผนไทย เดินทางมายื่นฟ้องร้องรัฐบาล เรียกร้องค่าเสียหายให้ผู้ประกอบการที่ได้รับความเดือดร้อนจากการปฎิบัติตามมาตราการศบค. ที่มีคำสั่งปิดสถานประกอบการร้านนวด ซึ่งที่ผ่านมาได้เรียกร้องไปหลายหน่วยงาน แต่ยังไม่มีความคืบหน้า ทั้งนี้ นายพิทักษ์ ระบุว่า กลุ่มผู้ประกอบการร้านนวดได้รับผลกระทบจากนโยบายสั่งปิดกิจการร้านนวดตั้งแต่ปี 2563 และถูกสั่งปิดต่อเนื่องทุกครั้งของการล็อกดาวน์ และ ตั้งแต่มีคำสั่งจากรัฐบาล รวมทั้ง ศบค. ให้ปิดร้านนวด ทางผู้ประกอบการแต่ละร้าน ยังไม่ได้รับการเยียวยาแต่อย่างใด และที่สำคัญทางกลุ่มผู้ประกอบการร้านนวด เคยเรียกร้อง การขอรับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ไป แต่รัฐบาลกลับไม่จัดสรรมาให้ โดยใช้เหตุผลว่า ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ในวันนี้กลุ่มผู้ประกอบการจึงได้ฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายจากภาครัฐเป็นเงินจำนวน 200 ล้านบาท
ด้าน นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะเป็นตัวกลางยื่นฟ้องให้กลุ่มผู้ประกอบการ กล่าวว่า การฟ้องในครั้งนี้เป็นการฟ้องแพ่งแบบรวมกลุ่ม หรือ Class Action ซึ่งอยากให้คดีนี้เป็นคดีแรกและเป็นคดีในประวัติศาสตร์ของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่จะต้องรับผิดชอบต่อชีวิตของประชาชนและความเสียหายที่เกิดขึ้นของผู้ประกอบการร้านนวด หากรัฐบาลจะคิดเยียวยาตอนนี้ก็ถือว่าสายเกินไปแล้ว เพราะไม่ได้สัดส่วนของความเสียหายที่เกิดขึ้น ขณะนี้ต้องพึ่งศาลให้พิจารณาอย่างเดียวว่าละเมิด ทำผิด กับประชาชนในการบริหารจัดการสถานการณ์โควิด-19 หรือไม่ และต้องชดใช้ค่าเสียหายให้กับประชาชนเป็นจำนวนเท่าไหร่
นางสาวศิริกัญญากล่าวอีกว่า การฟ้องร้องในวันนี้เป็นคดีแรกของการฟ้องแบบรวมกลุ่ม และหลังจากนี้อาจมีการขยายไปยังกลุ่มผู้ประกอบการอื่น ๆ ที่สามารถมีสิทธิ์ยื่นฟ้องรัฐบาลได้เช่นกัน ดังนั้นจึงขอเรียนเชิญประชาชนและสื่อมวลชนติดตามการดำเนินคดีครั้งประวัติศาสตร์นี้ เพื่อเป็นบรรทัดฐานต่อไปในอนาคต ว่ารัฐบาลจะต้องดูแลรับผิดชอบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของทุกคนอย่างดีที่สุด อย่างเสมอภาคเท่าเทียม และไม่เลือกปฏิบัติ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ประเทศเกิดวิกฤตเช่นนี้