นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจที่น่าจะเกิดขึ้นภายในเดือนกันยายนนี้ว่า เรื่องโควิด-19 จะเป็นเรื่องที่มีการวิพากษ์วิจารณ์มากที่สุด และเท่าที่ได้อ่านญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งเป็นเอกสารเผยแพร่ทางสื่อ มีการใส่ดราม่าเข้าไปเยอะเหลือเกินเพื่อโจมตีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จนตนก็ยังแปลกใจว่านี่คือ งานนำเสนอของผู้ที่เรียกตัวเองว่าผู้แทนราษฎร เป็นการตัดแปะข้อมูลมาผสมให้คนอ่านเกิดความเกลียดชัง สร้างความแตกแยกให้กับสังคม ไม่สนใจความเป็นไปของทั้งโลก แล้วนายอนุทินจะไปดูถูกโรคได้อย่างไร ในเมื่อไทยเป็นประเทศแรก นอกจากแผ่นดินจีนที่ตั้งด่านคัดกรองผู้ป่วย เป็นประเทศแรกที่พบผู้ป่วยนอกแผ่นดินจีน จากนั้นเราก็คุมโรคระบาดได้เรื่อยมา เคยขึ้นไปถึงอันดับ 1 ของโลก แต่ขอให้เข้าใจว่าโควิดเป็นโรคอุบัติใหม่ ในเอกสารที่ยื่นสภาก็เขียนคำนี้ไว้ นั่นแสดงว่าท่านรู้แก่ใจว่าการจัดการกับโรคนี้เป็นอย่างไร
“จะเห็นว่า ทั่วโลกเองก็ตกที่นั่งลำบาก ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย ทุกวันทั่วโลกมีคนติดเชื้อกัน 5-6 แสนคน ผมไม่อยากจะเอาไทยไปเทียบกับประเทศไหนทั้งนั้น เพราะจะกระเทือนความสัมพันธ์กันเสียเปล่าๆ แต่คำว่าโรคอุบัติใหม่ มันตอบคำถามทุกอย่างว่า อะไรที่เราคิดว่าดีตอนนี้ ในอนาคต อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง แต่ที่แน่นอนคือ มาตรฐานการรักษาของไทยดีมาก ผู้เสียชีวิต เมื่อเทียบกับผู้ติดเชื้อไม่ถึง 1% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของทั้งโลก ซึ่งอยู่ที่ 2% กว่าๆ เรื่องวัคซีนเอง ก็เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลก ถึงขนาดที่ WHO ต้องออกมาประณามประเทศรายได้สูงที่กักตุนวัคซีน นี่คือภาพสะท้อนของสถานการณ์จริงๆ และไทยก็เป็นสมาชิกโลก ก็ต้องบอบช้ำจากสถานการณ์ตรงนี้ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้การบริหารจัดการมีความซ้ำซ้อนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ไทยก็ได้พยายามแก้ปัญหาเฉพาะหน้า วันนี้ให้บริการในหลายรูปแบบ ทั้งที่เป็นสวัสดิการที่รัฐมอบให้ ไปจนถึงวัคซีนทางเลือก มีการฉีดวัคซีนแล้วหลากหลายยี่ห้อ หลากหลายชนิด มีการฉีดเข็ม 3 แล้ว ส่วนวัคซีนที่ไทยใช้นั้น มีประสิทธิภาพแน่นอน เพราะผ่านการรับรองจาก WHO แล้ว วัคซีนที่เป็นประเด็นถกเถียงทั้งหลาย ล่าสุด COVAX ก็จัดหาเข้ามาถึงกว่า 350 ล้านโดสให้ประเทศสมาชิกได้ใช้ควบคุมโรค” นายศุภชัย กล่าว
นายศุภชัย กล่าวต่อว่า ตนเชื่อมั่นว่าคนทำงานก็ทำอย่างสุดความสามารถ วันนี้ ไทยฉีดได้มากกว่า 23 ล้านโดส 2 เดือนที่ผ่านมา ฉีดได้มากกว่า 16 ล้านโดส เกิดขึ้นโดยคนทำงาน ทุกระดับชั้น ไม่ได้เกิดจากปากนักวิจารณ์แน่นอน ส่วนเรื่องการทำ Home Isolation ก็เป็นแนวทางที่ทั่วโลกปฏิบัติ เพื่อเปิดพื้นที่ให้ผู้ป่วยอาการปานกลางขึ้นไป ได้รับการรักษาอย่างเต็มที่ ลดการสูญเสียชีวิต นี่คือแนวทางทางการแพทย์ ที่ใช้กันทั่วโลก แต่พอไทยมาใช้ กลับกลายเป็นประเด็นให้ถูกโจมตีทางการเมือง ส่วนการไปกล่าวหาว่ามุ่งหาประโยชน์จากวัคซีน ขอถามว่านอกจากการพูดจารุนแรงสร้างดราม่ารายวันของสมาชิกฝ่ายค้านแล้ว มีหลักฐานที่เป็นรูปธรรมอื่นหรือไม่ ส่วนตัวอ่านเอกสารยื่นญัตติอภิปรายแล้ว ก็ได้แต่ถอนหายใจ น่าสมเพชเวทนาฝ่ายค้านที่เล่นการเมืองแบบน้ำเน่า ดีแต่สร้างดราม่าด่าอีกฝ่ายไปวันๆ ฝ่ายค้านที่ไร้ประสิทธิภาพเช่นนี้ คงจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ได้
“อ่านเอกสารการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้วละเหี่ยใจ ไม่มีพัฒนาการ ดีแต่ใช้คำรุนแรง ด่าเหน็บแนมเสียดสี ดูหมิ่นดูแคลนว่าเป็นคนเลวคนชั่วช้าสามานย์ แต่พอถึงเวลาอภิปรายก็เอาข้อมูลเก่าไปพูดซ้ำๆ ซากๆ เป็นการเมืองที่ไม่สร้างสรรค์ ฝ่ายค้านที่ดีต้องไม่ใช่แค่นั่งวิจารณ์รายวัน แต่ต้องช่วยกันหาทางออกที่สามารถปฏิบัติได้จริงให้กับชาติบ้านเมือง เป็นฝ่ายตรวจสอบที่ดี ทำงานอย่างสร้างสรรค์ สิทธิ์ในการอภิปรายเป็นสิทธิ์ของท่านอยู่แล้ว และทางฝ่ายรัฐบาลก็ต้องชี้แจง แต่มันควรจะเป็นเวทีเพื่อตรวจสอบการทำงาน หาทางพาบ้านเมืองไปข้างหน้า ไม่ใช่อีเว้นท์มาสาดโคลนใส่กัน” นายศุภชัย กล่าว