No data was found

เปิดใจแหล่งข่าวสันติบาล ล้วงลึก “เหตุใดตำรวจปราบม็อบเด็ดขาดไม่ได้” และทำไม แกนนำเอาม็อบไม่อยู่

กดติดตาม TOP NEWS

แหล่งข่าวจากสันติบาล ให้ข้อมูลกับ “ทีมข่าวท็อปนิวส์”เหตุใดตำรวจควบคุมฝูงชน ยังปล่อยให้ม็อบรวมตัวก่อเหตุซ้ำๆ ด้วยวิธีการเดิมๆ เสมือนไร้ศักยภาพในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้เหตุผลที่ว่า ทำไมที่ผ่านมาไม่เคยมีแกนนำม็อบคนไหน สามารถควบคุมมวลชนอยู่

ความบานปลายของการชุมนุมขับไล่รัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ด้วยเบื้องหลังการชักใยเยาวชนทุกๆกลุ่มจากบุคคลหน้าเดิม ท่ามกลางข้อกังขาและเสียงวิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ของตำรวจไทย ว่า ไม่มีศักยภาพพอที่จะจัดการม็อบตามหลักสากล แต่กลับปล่อยปะละเลยให้ เยาวชนหน้าเดิม สร้างความเสียหายให้กับชีวิตและทรัพย์สินอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญก็คือ ม็อบที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ นอกจากตำรวจจะเอาไม่อยู่แล้ว แกนนำและผู้อยู่เบื้องหลังม็อบก็ไม่สามารถควบคุมม็อบได้ หรือมองอีกทางหนึ่งคือผู้ชักใยเบื้องหลัง “ตั้งใจให้เกิดเหตุวุ่นวายนำสู่การจลาจล”

ทีมข่าวท็อปนิวส์ ได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล ที่คลุกคลีอยู่กับการข่าวเรื่องม็อบมายาวนาน ได้ให้ข้อมูลกับเราว่า หน่วยงานที่ดูแลเรื่องม็อบมีทั้ง ตำรวจและทหารและรัฐบาล ที่ทำงานร่วมกัน หมายรวมไปถึงตำรวจนครบาลเองที่ทำหน้าที่สืบสวนหาข่าวเรื่องม็อบ และม็อบทุกๆครั้งที่ผ่านมา ย้อนไปแค่ปี 2549 ม็อบเสื้อเหลืองขับไล่ทักษิณ ชินวัตร มาจนถึง ม็อบเสื้อแดง ปี 2553 ขับไล่อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ,ม็อบ กปปส. ปี 2557 ขับไล่รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยาวมาจนถึง ม็อบเยาวชนในนามกลุ่มต่างๆที่กำลังทำการ ขับไล่รัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เหล่านี้ ถึงแม้จะมีแกนนำม็อบ ก็ไม่เคยมีใครควบคุมม็อบได้ ปล่อยให้สร้างสถานการณ์ความวุ่นวาย ปะทะเจ้าหน้าที่เกือบทุกม็อบ

“เพราะมนุษย์ คือสิ่งซับซ้อน ใครที่คิดว่าคุมคนอยู่คือคิดผิดตั้งแต่ต้น อย่าว่าแต่มวลชนเลย แค่คนเดียวที่มาเป็นลูกน้องเรา เรายังคุมไม่อยู่ และถ้าถามว่าม็อบเยาวชนครั้งนี้มีการเคลื่อนไหวต่างจากม็อบอื่นอย่างไร มันต่างกันแค่วิธี และกาลเวลา แต่สุดท้ายก็ลงเอยเหมือนกันหมด คือมุ่งหวังทำให้เกิดความวุ่นวาย หากยกตัวอย่างเปรียบเทียบ คือ เหมือนคดีแชร์ลูกโซ่ วิธีการต่างไปตามกาลเวลา หลักการเหมือนเดิมคือเล่นกับความโลภของคน ส่วนม็อบนั้นมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างแรงกระเพื่อม ให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ตำรวจแข็งไปก็ไม่ได้ครับ ต้องตั้งรับมือไว้ประมาณหนึ่ง เพราะถ้าหากทำรุนแรงไปก็จะเข้าทางม็อบ”

แหล่งข่าวจากสันติบาล ระบุอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ตำรวจสามารถคุมม็อบได้ระดับหนึ่ง จะให้ลงมือเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์เลยไม่ได้ ส่วนใหญ่ได้แค่ 70- 80 เปอร์เซ็นต์ ยุทธวิธีเดียวที่ดีที่สุดคือ การประคองสถานการณ์ เพราะถ้าอยากให้คุมเร็ว มันก็ต้องใช้ความตอบโต้รุนแรง ตอบโต้เหมือนสมัยที่ทหารเข้าสลายการชุมนุมเสื้อแดง ปี2553  และทำให้เกิดการเสียชีวิต ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ดีเท่าไหร่นัก!

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สตช.ปลดป้ายชื่อ “บิ๊กโจ๊ก” หน้าห้องทำงาน ถอดรูปออกจากทำเนียบผู้บังคับบัญชาบนเว็บไซต์ด้วย
สหรัฐ กระแสต้านยิวลามเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำ
โคราชประกอบพิธีบรรพชา สามเณรปลูกปัญญาธรรม 1ทศวรรษแห่งความดี 10 ปีแห่งความยั่งยืน
"สุรพงษ์" ลุยปัตตานี พัฒนาระบบขนส่งรถสาธารณะ เชื่อมแหล่งท่องเที่ยว อำนวยความสะดวกนทท.-ปชช.ในพื้นที่
ผู้โดยสารอินเดีย ซุกงูอนาคอนดาเหลือง 10 ตัวจากไทย
"3 รัฐมนตรี" ยืนยันไทยไม่แทรกแซงกิจการในเมียนมา พร้อมช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ย้ำจุดยืนห้ามรุกล้ำดินแดน
"หมอเหรียญฯ" ลั่นสัญญาลูกผู้ชาย รับปาก "ลุงตู่" สร้างโครงการวิสาหกิจการแพทย์ วันนี้ทำจริงไม่ขายฝัน
ภาคเอกชน เผยสถานการณ์เมียนมากระทบค้าชายแดน ลดลงร้อยละ 30 หากยืดยื้อส่อส่งผลรุนแรง
อากาศร้อนทำพ่อค้าแม่ค้าตลาดใหม่ชลบุรีบ่นอุบผักขึ้น กก. ละ 50 บาทไข่ขึ้นราคาแผงละ 6 บาท ทำคนจับจ่ายน้อยขายของยากไม่คึกคัก
แคมป์ปิ้งจีนที่ไห่หนานสุดคึกคัก

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น