ทั้งโกรธทั้งขำ เฮียเงี๊ยบ เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา ชื่อดังสงสัยกระถางต้นไม้ในห้องน้ำหายบ่อย เปิดวงจรปิดถึงบางอ้อ กลายเป็นลูกค้าประจำหยิบขึ้นรถหน้าตาเฉย โดยตอนนี้แจ้งความไว้แล้ว วอนเจ้าตัวอย่าไปทำแบบนี้กับใครในยามวิกฤติ ส่วนที่ร้านก็ลุยขายไม่นั่งกินให้ลูกจ้างมีรายได้เท่านั้น ส่วนตัวควักหลายล้านบาท ช่วยสังคมให้รอดพ้นความตายมากที่สุด
วันที่ 13 สิงหาคม 2564 หลังจากมีการแชร์คลิบปรากฏเป็นภาพของลูกค้าที่ขับมารถมาจอดเพื่อซื้อก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลานายเงี๊ยบ ย่านพุทธมณฑลสาย 4 อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม ซึ่งในคลิบได้มีภาพจุดจำหน่ายก๋วยเตี๋ยว ซึ่งมีรถยนต์เก๋งสีแดงมาจอดเพื่อรับสินค้าก่อนจะค่อยๆเคลื่อนรถออกจากจุดรับสินค้า จากนั้นได้ปรากฏภาพบริเวณหน้าห้องน้ำซึ่งมีรถยนต์เก๋งสีแดงมาจอดโดยมี ชายอายุประมาณ 50 ถึง 60 ปี รูปร่างสูงใหญ่ สสวมเสื้อแขนกุดสีดำ กางเกงขายาวสีดำ เดินลงมาจากฝั่งคนขับและมาหยิบกระถามต้นไม้ขึ้นไปวางฝั่งคนนั่ง และขับออกไปจากบริเวณหน้าห้องน้ำของร้านก๋วยเตี๋ยวดังกล่าว โดยในคลิบยังมีการจับภาพใบหน้าและทะเบียนของรถคันดังกล่าวขณะก่อเหตุและขับออกจากลานจอดรถของร้านเป็นรถยนต์เก๋งยี่ห้อมาสด้า 2 สีแดงเลือดหมู ทะเบียน 8 กผ 2497 กรุงเทพมหานคร ได้อย่างชัดเจน ซึ่งถูกระบุว่าเป็นผู้ก่อเหตุลักกระถางต้นไม้ที่ตั้งไว้ในร้านดังกล่าว ซึ่งตอนนี้ทางร้านได้มีการเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.พุทธมณฑล เรียบร้อยแล้ว
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เข้าสอบถาม นายสมชาติ สาลีพัฒนา หรือเฮียเงี๊ยบ เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลานายเงี๊ยบ ซึ่งปีนี้เพิ่งได้รับป้าย มิชลีนไกด์ ไทยแลนด์ ประจำปี 2021 บิบ กูร์มองด์: ร้านอาหารอร่อยคุ้มค่าในราคาย่อมเยา โดยบอกว่า ภาพจากคลิบที่ปรากฏดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในร้านสาขาพุทธมณฑลสาย 4 ซึ่งปัจจุบันเปิดจำหน่ายให้กับลูกกค้าแบบไม่มีบริการนั่งรับประทาน ซึ่งลูกค้าจะเป็นลูกค้าประจำที่จะโทรมาสั่งและจะวนรถมารับเท่านั้น
เฮียเงี๊ยบ บอกว่า ที่ผ่านมาประมาณ 1 เดือนลูกน้องจะมาบอกว่ากระถางต้นไม้ที่มีต้นไม้พลาสติกได้หายจากห้องน้ำชายบ่อยครั้ง ซึ่งในห้องที่สุขาชาย กระถางต้นไม้เทียมได้หายไปจนหมด ซึ่งก็สงสัยว่าใครเป็นคนเอาไปแต่ก็ไม่ได้เฉลียวใจ กระทั่งช่วงเช้าที่ผ่านมากระถางต้นไม้ที่ตั้งอยู่ที่หน้าห้องน้ำชาย ซึ่งเป็นกระถางใบใหญ่ จำนวน 1 ใน 3 กระถางได้หายไป ด้วยความสงสัยจึงได้ให้คนในร้านเปิดกล้องวงจรปิดดูตั้งแต่ช่วงเช้าและก็มาพบภาพคนที่ก่อเหตุทันทีว่าเป็นลูกค้าที่มาซื้อของในร้านแน่นอน และเป็นลูกค้าประจำที่มาบ่อยเป็นคนลงมายกกระถางไปไม่ไม่แคร์สายตาใคร
เฮียเงี๊ยบ บอกอีกว่า หลังจากได้ค้นภาพดูก็พบว่าช่วงที่มารับสินค้าแล้วก็ได้ขับเลี้ยวซ้ายไปที่ลานจอดรถด้านหลังร้านซึ่งจะมีห้องน้ำชาย หญิง อยู่คู่กัน ทันใดนั้นก็ได้ลงจากรถคาดว่าจะมาคนเดียวหยิบกระถางออกไปหน้าตาเฉย ซึ่งถามลูกจ้างก็บอกว่าเป็นลูกค้าประจำที่มีซื้อแทบทุกวัน บางวันจะสั่งแล้วไปนั่งกินในรถแต่วันนี้ไม่นั่งกินแต่หยิบกระถางแล้วขับออกไปทันที
ตอนแรกผมก็ไม่ได้สนใจมากเพราะเป็นต้นไม้พลาสติกและสีก็ซีดจนจะหมดสภาพแล้ว แต่พอมันหายบ่อยๆก็มาเปิดกล้องแล้วก็ให้คนไปแจ้งความไว้แล้ว ที่แจ้งได้คิดอะไรมากเนื่องจากเรากลัวเขาจะไปทำแบบนี้กับคนอื่น ซึ่งที่ร้านเราซีเรียสมากเรื่องนี้ถ้าของใครหายที่ร้านเราแล้วเราจะเสียหายได้ ซึ่งอยากจะบอกกับชายคดังกล่าวว่า ถ้าชอบให้มากบอกอย่ามาหยิบไปแบบนี้เลย ชอบกระถางไหนก็ยกให้ได้เพราะเป็นลูกค้าของเรา นอกจากห้องน้ำชายหาย ห้องน้ำหญิงก็มีหายเหมือนกันและช่วงหลังมันหายถี่ ผมสงสัยว่าเค้าคิดว่าต้นไม้นี้จะเป็นต้นไม้มงคลหรือเปล่าที่จะทำให้ค้าขายดีถึงได้มาหยิบไป” เฮียเงี๊ยบ พูดไปหัวเราะไป
ทั้งนี้ เฮียเงี๊ยบ ยังฝากบอกอีกว่า ช่วงนี้ใครจะมาขโมยของที่ร้านค่าอื่นๆก็อย่าทำเพราะพ่อค้าแม่ค้านั้นก็ขายไม่ดีอยู่แล้ว ขอให้เห็นใจกันส่วนที่ร้านก็พยายามเปิดขายให้ลูกจ้างมีรายได้ประทังไปก่อน ซึ่งช่วงนี้ได้ควักเงินเก็บที่มีไปสมทบทุนช่วยซื้ออุปกรณ์การแพทย์ให้กับโรงพยาบาลต่างๆ ซึ่งตั้งแต่ช่วงที่มีวิกฤติโควิด-19 นี้ก็หมดเงินไปกับการช่วยบุคคลากรทางการแพทย์หลายล้านบาทแล้ว โดยถือคติว่า ตอนนี้ต้องช่วยกันกันเงินที่มีให้เอามาใช้ช่วยกันให้รอดชีวิตกันก่อน เพราะถ้าเราติดเชื้อหรือตายเงินที่มีก็ไม่มีความหมาย ถ้าโรคระบาดคลายแล้วค่อยกลับมาสู้กันต่อ ถ้าตายทุกอย่างก็จบและตอนนี้อย่าซ้ำเติมกันแต่ต้องช่วยเหลือกันให้มากที่สุด ไม่งั้นพวกเราจะไม่รอด
ปนิทัศน์ มามีสุข นส.ปณิดา มามีสุข จ.นครปฐม
