ม็อบสะเปะสะปะ ไร้กัปตันชี้นำทิศทางลงถนนต่อสู้ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มของ “เยาวชนปลดแอก”,“แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม”หรือ “ทะลุฟ้า” ฯลฯ เหล่านี้อาศัยสื่อสารกับมวลชนผ่านเฟซบุ๊ก, ทวิตเตอร์ และคลับเฮาส์ ปลุกระดมเชิญชวนคนประเภทเดียวกันมาเข้าร่วม
การจัดม็อบทุกครัังที่ผ่านมา ถูกหลายฝ่ายวิจารณ์อย่างหนัก เนื่องจากผู้เคลื่อนไหวส่วนใหญ่เป็นเยาวชนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ใช้ความรุนแรงจนเกิดการปะทะรายวัน ทำลายทรัพย์สินทางราชการและตั้งเป้าโจมตีตำรวจอย่างต่อเนื่อง
ภาพความพยายาม ในการใช้ความรุนแรงของเยาวชน ที่ถูกปลุกระดมเข้าร่วมม็อบ ฉายชัดให้เห็นในวันที่ 11 สิงหาคม ที่ผ่านมา ภายหลังเด็กชายวัย 14 ปี ได้ใช้สิ่งเทียมระเบิด ขว้างปาใส่ตำรวจ แต่สุดท้ายกลับตูมสนั่นในมือจนทั้ง 5 นิ้ว ขาดวิ้น
ถัดมาล่าสุด เมื่อวันศุกร์ที่ 13 ส.ค.2564 โดยการนำของกลุ่ม “ทะลุฟ้า” นัดแนะมวลชนผ่านการะประกาศทางเฟชบุ๊กส่วนตัว เป้าหมายเพื่อบุกบ้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อีกครั้ง และปรากฎภาพเด็กผู้ชายที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะอายุราว 13-15 ปี จำนวนมากเข้าร่วมชุมนุม ในมือถือไม้ง่าม ระดมยิงก้อนหิน ลูกแก้ว และสิ่งเทียมอาวุธถาโถมเข้าใส่ตำรวจ
คำถามที่เกิดขึ้นก็คือ เด็กเหล่านี้ มาจากไหน ซึ่งสังเกตด้วยตา แล้วไม่น่าจะใช่ กลุ่ม นักศึกษา ที่ออกมา กล่าวอ้าง เรียกร้อง เรื่อง ประชาธิปไตย หรือ ขับไล่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แต่มีเบื้องลึกเบื้องหลังที่มากไปกว่านั้น
ทีมข่าวท็อปนิวส์ ได้ทำการตรวจสอบที่มาของเยาวชนเหล่านี้ และทราบข้อมูลในเชิงลึกว่า การเดินทางมาเข้าร่วมม็อบของเด็กๆ ได้ถูกชักจูงเชิญชวนจากรุ่นพี่นักเรียนอาชีวะ และ กศน. ในพื้นที่จังหวัดปริมณฑล ซึ่งเด็กที่ปรากฏภาพทั้งหมด ส่วนใหญ่เป็นนักเรียนชั้น ม.ต้น หรือ นักเรียน กศน. ในขณะที่บางคนไม่ได้อยู่ในระบบการศึกษาใดๆ ล้วนแล้วได้ถูกนัดแนะเตรียมการมาอย่างดี พร้อมรับมอบสิ่งเทียมอาวุธ ติดไม้ติดมือจงใจมาก่อเหตุปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
และเมื่อสาวไปให้ลึกถึงผู้ที่เป็น “คนบงการตัวจริง” ถึงกับต้องอึ้ง! เพราะไม่ใช่คนอื่นคนไกลที่ไหน เหล่านี้คือหัวคะแนน พรรคการเมืองพรรคใหญ่ ในพื้นที่ปริมณฑล ตั้งตัวเป็นท่อน้ำเลี้ยง คอยจ่ายค่าแรงให้เด็กอาชีวะลงถนนปะทะกับตำรวจ ซ้ำยังใช้เด็กอาชีวะเหล่านี้เป็นตัวกลางในการชักชวน เด็กมัธยมต้น ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะเข้าร่วมปะทะกับตำรวจอีกด้วย
คงต้องฝากเตือนไปยัง พ่อ – แม่ ผู้ปกครอง ให้สอดส่องดูแลบุตรหลานของท่านอย่าให้คลาดสายตา เพราะอาจจะตกไปเป็นเครื่องมือของกลุ่มนักการเมืองท้องถิ่น หรือ หัวคะแนนพรรคดัง ซ้ำร้ายหากพลาดท่าเสียที เจอเหตุการณ์ปะทะรุนแรงจนถึงขึ้นสูญเสียชีวิต … และขอเตือนซ้ำอีกทีว่า การปล่อยให้บุตรหลานออกมากระทำการดังกล่าว เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย ระวังจะมีคดีติดตัว หมดอนาคต ตั้งแต่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ
