ชาวเสปนมากกว่าร้อยละ 61 ของประชากรทั้งหมด 47 ล้านคนได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วน นับเป็นหนึ่งในอัตราที่สูงที่สุดของประเทศในสหภาพยุโรป ศาสตราจารย์โลเปซ โลเบรา ศาสตราจารย์ด้านสังคมวิทยาและคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านวัคซีนของรัฐบาล ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าว AFP ว่า รากฐานที่สำคัญอย่างหนึ่งของการขับเคลื่อนวัคซีนที่ประสบความสำเร็จของสเปนคือความไว้วางใจในระบบสาธารณสุข จึงไม่ค่อยจะลังเลในเรื่องวัคซีน
ศาสตราจารย์โลเบรากล่าวเสริมอีกว่า ความสัมพันธ์ในครอบครัวที่ใกล้ชิด ก็มีส่วนที่ทำให้ทุกคนเต็มใจที่จะได้รับการฉีดวัคซีน เนื่องจากชาวสเปนอายุระหว่าง 25-29 ปี ยังอาศัยอยู่กับพ่อแม่กว่า 55 เปอร์เซ็นต์ พวกเขาจึงมองชีวิตในครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญ
ผลการศึกษาของวิทยาลัยอิมพีเรียล ในลอนดอน ซึ่งตีพิมพ์เมื่อเดือนมิถุนายน พบว่า 79 เปอร์เซ็นต์ของชาวสเปนเชื่อถือประสิทธิภาพของวัคซีนโควิด 19 ในขณะที่ความเชื่อถือในวัคซีนของสหรัฐอยู่ที่ 62 เปอร์เซ็นต์ และ ฝรั่งเศส 56 เปอร์เซ็นต์
ก่อนหน้านี้ ปิลาร์ อาเลเกรีย รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการได้กล่าวในสถานีวิทยุว่า สเปนไม่จำเป็นต้องบังคับฉีดวัคซีนในครู หรือผู้ปฏิบัติงานสำคัญอื่นๆ เพราะทุกคนฉีดด้วยความสมัครใจ
สำหรับบัลแกเรีย กลับเผชิญกับภาวะที่ตรงข้ามกับสเปน ที่เมืองโซเฟีย เมืองหลวงของบัลแกเรีย ศูนย์ฉีดวัคซีนค่อนข้างว่างเปล่า ผู้คนยังไม่มีความเชื่อใจในประสิทธิภาพวัคซีนเนื่องจากบรรดาเฟกนิวส์ต่างๆ จนนำไปสู่ความหวาดระแวง ช่วงกลางเดือนมีนาคม AFP ทำการตรวจสอบข้อมูลของภาษาบัลแกเรีย พบว่ามีบทความกว่าครึ่งหนึ่งเกี่ยวข้องกับข้อมูลที่บิดเบือนของไวรัสโคโรนาและประสิทธิภาพของวัคซีน ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ได้ถูกแชร์ออกไปเป็นวงกว้าง
ข้อมูลอย่างเป็นทางการแสดงให้เห็นว่ามีประชากรชาวบัลแกเรีย เพียง 15 เปอร์เซ็นต์ของประชากรในประเทศ 6.9 ล้านคนได้รับการฉีดวัคซีนแบบครบถ้วน ซึ่งต่ำกว่ามากเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของสหภาพยุโรปที่ 52.7 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ดีผู้เชี่ยวชาญได้มองว่าการระบาดของระลอกที่ 4 จะทำให้ผู้คนหวาดกลัวและในที่สุด ก็จะยอมรับวัคซีน