NBC รายงานว่าผู้ปกครองและพ่อแม่เด็กชาวอเมริกันนับร้อยคนที่เมืองแฟรงคลิน รัฐเทนเนสซี่ได้ลุกฮือขึ้นประท้วง หลังจากคณะกรรมการด้านการศึกษาได้อนุมัติเห็นชอบให้นำเอามาตรการใส่หน้ากากอนามัยกลับมาใช้ในโรงเรียนระดับชั้นประถมอีกครั้ง ส่งผลให้พ่อแม่เด็กบุกไปถึงสำนักงานรัฐขณะเจ้าหน้าที่กำลังประชุมกันอยู่ พร้อมตะโกนว่าจะไม่ยอมให้ลูกใส่หน้ากากอนามัย
ในคลิปจะเห็นว่าพ่อเด็กหลายคนได้เดินตามเจ้าหน้าที่ที่ใส่หน้ากากอนามัยขณะเดินออกจากที่ประชุมไปจนถึงรถ โดยใช้คำพูดข่มขู่ บอกจะไล่ล่าทำร้ายและไม่ให้เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวออกมาใช้ชีวิตข้างนอกได้อีก จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ามาขัดขวาง ทั้งนี้มาตรการใส่หน้ากากในโรงเรียนที่เมืองแฟรงคลินแห่งนี้จะเริ่มบังคับใช้วันนี้จนถึงเดือนหน้า
หลังเกิดเหตุโฆษกคณะกรรมการด้านศึกษาที่เมืองนี้ออกมาประนามการกระทำของพ่อแม่เด็กว่าการที่พวกเขารักลูก ไม่ได้แปลว่ามีสิทธิที่จะแสดงกริยาไร้มารยาทแบบนี้กับเจ้าหน้าที่ และว่าทุกคนมีสิทธิที่จะคิดต่าง แต่ต้องอยู่ภายใต้การเคารพสิทธิของกันและกัน
การรื้อฟื้นมาตรการใส่แมสก์ในโรงเรียนที่รัฐเทนเนสซี่มีขึ้นหลังมีรายงานผู้ป่วยเด็กติดเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลต้าเพิ่มขึ้นทั่วประเทศจนน่าวิตกในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยที่รัฐเทนเนสซี่ โรงพยาบาลเด็กเริ่มเต็มเกือบทุกแห่ง หลังผุ้ป่วยโควิดในเด็กเพิ่มขึ้น 65% ภายใน 1 สัปดาห์ หลายคนอาการหนักอยู่ในห้อง ICU และมีเสียชีวิตหลายราย เนื่องจากสหรัฐยังไม่ได้อนุมัติฉีดวัคซีนในเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ล่าสุดสำนักงานอาหารและยาสหรัฐกำลังพิจารณาจะอนุมัติฉีดวัคซีนในเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีในช่วงปลายปีนี้