จากกรณีเมื่อวันที่ 7 ส.ค.64 ได้มีผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อว่า Peeraphat Hoila ได้มีการโพสข้อความลงโซเชียลมีข้อความว่า แบบนี้ก็ได้ขี่รถตามมาต่อยถึงหน้าโรงงาน 7637 นิสสันมาร์ช ยังมีการบอกตี 5 เจอกันหน้าโรงงาน หลังจากนั้นก็ได้มีการถ่ายรูปหน้าตัวเองที่มีเลือดบนใบหน้า หน้าบวม ปากแตก และมีรอยฟกช้ำบนใบหน้า ลงในโซเชียลทำให้เพื่อนๆที่รู้จักได้เข้ามาคอมเม้นท์ สอบถามถึงสาเหตุว่าไปทำอะไรมาถึงมีสภาพแบบนี้ ในคอมเม้นท์บางคอมเม้นท์มีการสนทนาถามถึงคนทำมีข้อความว่า
#คนถามคน#ที่ไหนบักคนทำบอกพิกัดมา#คนตอบ#บ่รู้
ใช้ชุดสีดำ.ขับรถเก๋งนิสสันมาร์ช 7637.ตามตัวให้ทีบอกว่าเป็นลูกตำรวจหลังจากนั้นเมื่อช่วงบ่าย ของวันที่ 8 ส.ค. 64 ทางด้านนางธนาวดี ห้อยลา (แม่ของผู้โพส) ได้เดินทางมายัง สภ. กบินทร์บุรี เพื่อเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแทนลูกชาย
หลังจากนั้นทางผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บริเวณที่เกิดเหตุซึ่งอยู่บริเวณหน้าเซเว่นภายในตลาดอุดมสุข ต.หนองกี่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี จากการตรวสอบบริเวณโดยรอบพบว่ามีกล้องวงจรปิดที่คาดว่าน่าจะสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ทั้งหมดเอาไว้ได้ทั้งหมด โดยเฉพาะกล้องวงจรปิดพบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นบริเวณหน้าเซเว่นดังกล่าว ในเหตุการณ์มีผู้ได้รับบาดเจ็บคือ นายพีระพัฒน์ โดยจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเหตุการณ์ดังกล่าวเเกิดขึ้นในช่วงเวลา 04:56 น. บริเวณด้านข้างเซเว่นในตลาดอุดมสุข เผยให้เห็นว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุได้ขับรถยนต์และรถเก๋งมาด้วยกันประมาณ 5 คัน และผู้ที่ก่อเหตุมีด้วยกันประมาณ 10 กว่าคน และมีบางคนได้เข้าไปภายในเซเว่นดังกล่าวแล้วลากตัวผู้บาดเจ็บออกมาลุมทำร้ายกันที่กลางถนนข้างเซเว่นหน้าตลาดอุดมสุข ในภาพเผยให้เห็นว่าหนุ่มที่โดนลุมทำร้ายได้พยายามจะวิ่งหนีแต่ก็ถูกกลุ่มคนดังกล่าววิ่งจับตัวเอาไว้ได้ และได้ถูกลากตัวมากระทืบจนสลบ และหนึ่งในผู้ก่อเหตุได้ลากผู้ที่ถูกทำร้ายมาบริเวณริมถนนข้างเซเว่นแล้วมากระทืบต่อ หลังจากกระทืบเสร็จกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ลากตัวของผู้ได้รับบาดเจ็บมาบริเวณท้ายรถกระบะแล้วเร่งเครื่องปล่อยควันดำใส่หน้าผู้ได้รับบาดเจ็บถึง 2 ครั้ง ก่อนที่จะพากันหลบหนี ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บพยายามฝืนตัวเองขับรถของตัวเองกลับบ้าน แล้วแจ้งให้ทางครอบครัวทราบถึงเหตุการณ์ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้วทางครอบครัวได้พาไปรักษาตัวที่ รพ. กบินทร์บุรี
จากการสอบถาม นายพีระพัฒณ์ ห้อยลา อายุ 23 ปี (ผู้ได้รับบาดเจ็บ) กล่าวว่า วันที่เกิดเหตุนั้นตนกำลังขับรถไปทำงานตามปกติตนได้ขับรถไปยูเทิร์นหน้าเขตบ้านโคก รถเก๋งคันที่มีเรื่องกับตนเขาขับมาประมาณ 60 ตนขับมาประมาณ 80 ตนขับรถตามรถเก๋งคันนั้นมาตนก็ค่อยๆขับตามตูดเขาไป รถเก๋งคันนั้นเขาว่าผมขับจี้ตูดเขาพอยูเทิร์นเสร็จเขาออกซ้ายตนก็แซงขวาเขาก็หาว่าผมเหยียบรถใส่เขาผมก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร แต่ก่อนที่ตนจะเข้าทำงานเขาได้ขับรถตามตนไปแล้วไปต่อยตน 1 ที ที่หน้าบริษัท แล้วเขาก็บอกกับผมว่าตี 5 เจอกัน ตอนนั้นตนคิดว่าไม่มีอะไรแล้ว หลังจากนั้นพอหลังจากที่ตนได้เลิกงาน เขาได้ขับรถกระบะดีแม็กซ์ 4 ประตูสีดำคนเต็มรถเขามากันทั้งหมด 3 คัน ตอนนั้นตนได้ขับรถออมมาแล้วขับเข้าไปที่ตลาดอุดมสุขตนได้วิ่งหนีเข้าไปหลบในเซเว่น แล้วเขาก็พากันเข้าไปต่อยตนในเซเว่นแล้วก็อุ้มตัวออกมาข้างนอกแล้วก็เตะต่อยตนจนสลบแล้วเขาก็เตะจนตนฟื้น เขามากันประมาณ 10 กว่าคนที่มาทำร้ายตน ส่วนตัวตนไม่เคยรู้จักกับคนที่มีเรื่องกับตนเลย หนึ่งในกลุ่มนั้นเข้าพูดว่ามึงไปแจ้งความเลยอ้างว่าพ่อมันเป็นตำรวจแจ้งไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก ตนอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ติดตามตัวผู้ก่อเหตุในครั้งนี้มาดำเนินคดีให้ได้
จากการสอบถาม นางธนาวดี ห้อยลา อายุ 52 ปี (แม่ผู้ได้รับบาดเจ็บ) อยู่บ้านเลขที่ 96 ม.16 ต.นนทรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่าวันนี้ตนได้เดินทางมาเพื่อที่จะแจ้งความให้กับลูกชายผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่กำลังเข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่ รพ.กบินทร์บุรี ซึ่งอาการของลูกชายตอนนี้ได้รับบาดเจ็บฟกช้ำตามตัวและบริเวณใบหน้าด้านซ้ายกระดูกแก้มแตก ที่มาในครั้งนี้ก็เพราะกลัวว่าลูกชายของตนจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเอาไว้ก่อน ทางคดีต้องรอให้ทางลูกชายหายแล้วค่อยมาแจ้งความอีกที ตนรู้สึกว่าเรื่องแค่นี้ไม่น่าจะทำกันรุนแรงถึงอย่างนี้มีอะไรก็น่าพูดคุยกันดีๆก็ได้ ถึงแม้ถ้าลูกตัวเองผิดก็ไม่น่าจะทำกันขนาดนี้และลูกตัวเองก็มาคนเดียวทำไมถึงยกพวกมาทำร้ายกันเหมือนไม่ใช่คนซึ่งขณะทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองขณะนี้ ได้มีการลงบันทึกประจำวันไว้ในเบื้องต้น รอจนกว่าทางผู้ได้รับบาดเจ็บรักษาตัวหาย แล้วให้มาแจ้งความ
ทัตธน เหล่าหล้า สายชล หนูแดง ดิเรกฤทธิ แสงสุวรรณ สุพัตรา อาษา TOPNEWS จ.ปราจีนบุรี