ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส ได้ถ่ายคลิปตัวเองลงอินสตาแกรมว่า ฝรั่งเศสกำลังดำเนินการขยายการฉีดวัคซีนครั้งที่ 3 ให้กับผู้สูงอายุและผู้มีความเสี่ยงตั้งแต่เดือนกันยายน ขณะนี้ทางฝรั่งเศส กำลังพยายามยกระดับโครงการฉีดวัคซีน เนื่องจากประเทศกำลังเผชิญกับการระบาดระลอกที่ 4 และการประท้วงตามท้องถนนเพื่อประท้วงนโยบายโควิด 19 ของรัฐบาล
ส่วนที่เยอรมนี กระทรวงสาธารณสุขระบุว่าจะให้วัคซีนเข็ม 3 กับกลุ่มผู้ป่วยโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง ผู้สูงอายุ และผู้อยู่อาศัยในบ้านพักคนชราตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นไป
ด้านอิสราเอล นายกรัฐมนตรีนาฟตาลี เบนเน็ตต์ กล่าวในการไลฟ์ผ่านเฟสบุ๊คว่า ตอนนี้อิสราเอลเปรียบเสมือนผู้ที่กำลังให้บริการโลก ให้ทราบถึงประสิทธิภาพของวัคซีนเข็มที่ 3 หากอิสราเอลไม่เริ่มต้น โลกจะไม่ทราบถึงระดับประสิทธิภาพที่แน่นอนของการฉีดบูสเตอร์ ไม่ทราบวันที่ ผลกระทบต่อการติดเชื้อ ผลกระทบต่อความเจ็บป่วยที่รุนแรงว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งสิ่งนี้จะเป็นความรู้ที่ดีสำหรับทั่วโลก
เมื่อวันก่อน นายเทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ได้เรียกร้องให้เหล่าประเทศรายได้ดีถึงรายได้ปานกลาง ยุติการใช้วัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 จนถึงสิ้นเดือนกันยายนเป็นอย่างน้อย นายเทดรอสบอกถึงความเข้าใจในการพยายามปกป้องประชาชนในประเทศของตน แต่ก็เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้เพราะยังมีความไม่เท่าเทียมกันในเรื่องวัคซีนทั่วโลก โดยอิงตามข้อมูลที่ว่า ประเทศที่มีรายได้สูงสามารถให้วัคซีนประมาณ 50 โดสต่อ 100 คนในเดือนพฤษภาคม ส่วนประเทศที่มีรายได้ต่ำสามารถให้วัคซีนได้เพียง 1.5 โดสต่อ 100 คนเท่านั้น
อย่างไรก็ดี เยอรมนีปฏิเสธในเรื่องดังกล่าวและบอกว่าจะบริจาควัคซีนอย่างน้อย 30 ล้านโดสให้กับประเทศยากจน เพราะอย่างไรเสียกลุ่มเสี่ยงในประเทศก็ควรได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 แต่ในขณะเดียวกันประเทศก็ยังคงสนับสนุนการฉีดวัคซีนให้ได้จำนวนมากที่สุดในโลกเช่นกัน
จนถึงขณะนี้ ฝรั่งเศสและเยอรมนีได้ให้วัคซีนป้องกันโควิด 19 อย่างน้อย 1 โดสไปแล้วมากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ ของประชากรทั้งหมดในแต่ละประเทศ และ 50 เปอร์เซ็นต์ของประชากรในแต่ละประเทศก็ได้รับวัคซีนไปแล้วครบทั้ง 2 โดส ส่วนที่อิสราเอล ประชาชนต่างได้รับวัคซีนครบทั้ง 2 โดสแล้วกว่า 60 เปอร์เซ็นต์
ด้านสหรัฐก็วางแผนฉีดกระตุ้นเข็มที่ 3 เช่นกัน อย่างไรก็ดีหน่วยงานกำกับดูแลด้านสุขภาพของสหรัฐกล่าวว่าจำเป็นต้องมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เพิ่มเติมถึงความจำเป็นของการฉีดกระตุ้น แต่ก็อาจจะเริ่มต้นก่อนสำหรับกลุ่มที่ปัญหาเกี่ยวกับภูมิคุ้มกันบกพร่อง