วันที่ 5 ส.ค. 2564 ชาวบ้านต.ทุ่งนุ้ย อ.ควนกาหลง จ.สตูลระดมทุนชาวบ้านและร้านค้าต่างๆจัดหาเครื่องATK ตรวจแภายใต้โครงการ “คนทุ่งนุ้ยไม่ทิ้งกัน” หลังจากร้องขอจากสาธารณสุขจ.สตูล แต่ไม่ได้รับการตอบรับ จึงระดมทุนกันเองเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด พร้อมทำงานเชิงรุกโดยชุมชนดูแลกันเอง และตั้งCI รองรับหากตรวจหาเชื้อแล้วพบผู้ป่วย เป็นการทำงานเชิงรุกที่เป็นพลังในหมู่บ้านทำขึ้นกันเองเพราะหวั่นเกิดคลัสเตอร์ใหม่โดยไม่รอภาครัฐ
นายหมาดเรน ล่าโยด กำนันต.ทุ่งนุ้ย อ.ควนกาหลง กล่าวว่าโครงการคนทุ่งนุ้ยไม่ทิ้งกัน เนื่องจากในพื้นต.ทุ่งนุ้ยมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เกือบทั้งตำบลและมีผู้เสียชีวิต ชาวบ้านจึงตื่นตัว จึงได้ประชุมร่วมกับสาธารณสุข จ.สตูล รพ.ควนกาหลง ฝ่ายปกครอง ในพื้นที่และผู้เกี่ยวข้องโดยในที่ประชุมตนได้ร้องขอให้ทางสาธารณสุขตรวจเชิงรุกค้นหาผู้ป่วยติดเชื้อ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ไม่ตอบรับเพราะเกรงว่าตรวจแล้วจะพบผู้ติดเชื้อมากเกินไป ขณะที่ชาวบ้านก็กังวลตนจึงประชุมคณะทำงานที่ควบคุมสถานการณ์ซึ่งประกอบด้วย นายกอบต.ทุ่งนุ้ย รพ.สต.ในพื้นที่ กำนัน ผญบ.และผู้เกี่ยวข้องรวม 50 คนว่าเราคนในพื้นที่ที่ทำงานร่วมกันจำเป็นหรือไม่ที่ต้องใช้เครื่องดังกล่าวผลสรุปคือจำเป็นเพราะหากปล่อยไว้อาจเกิดคลัสเตอร์ใหม่มากขึ้นจะควบคุมยาก จึงหาทุนขอความอนุเคราะห์จากภาคเอกชน ห้างร้านในต.ทุ่งนุ้ย เพื่อหาซื้ออุปกรณ์ในการตรวจและจัดซื้ออุปกรณ์ต่างๆ พร้อมเปิดCIเตรียมไว้ที่ร.ร.บ้านโตนปาหนัน เพื่อรองรับหากตรวจพบผู้ติดเชื้อ
เครื่องดังกล่าวสามารถตรวจและทราบผลทันที โดยจะให้ จนท.รพ.สต.เป็นผู้ตรวจและขอความร่วมมือบุคลากรทางการแพทย์จาก รพ. มาคัดแยกผู้ป่วยว่าจะนำไปรักษาที่รพ.หรืออยู่ที่CI ซึ่งหากดำเนินการในรูปแบบนี้เราสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ ชาวบ้านให้ความร่วมมือและเราจะมีการรณรงค์ต่างๆในเชิงรุกเพื่อเฝ้าระวังตนเอง จำกัดและลดจำนวนผู้ป่วยได้เร็วขึ้น หลังจากเราระดมทุนกันได้แล้วและจะทำการตรวจหาเชื้อในวันพรุ่งนี้ ทางสาธารณสุขจ.สตูล เริ่มส่งสัญญาณมาแล้วว่าหากชุมชนมีความพร้อมสามารถเปิดCI เองได้ก็จะสนับสนุนงบมาช่วยเหลือ ซึ่งถือว่าต.ทุ่งนุ้ยเป็นตำบลแรกที่เริ่มทำแบบนี้ สาเหตุที่ชาวบ้านและภาคเอกชนห้างร้านต่างๆในพื้นที่รวมพลังกันส่วนหนึ่งมาจากเรื่องของเศรษฐกิจในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ห้างร้าน ร้านค้าต่างๆไม่มีคนเข้าซื้อ พื้นที่ต.ทุ่งนุ้ย ส่วนใหญ่เป็นชาวสวนผลไม้ เมื่อพื้นที่ติดโควิด พ่อค้าแม่ค้าก็ไม่กล้าเข้ามาซื้อ ผลผลิตเสียหาย ผู้กักตัวที่ผลผลิตกำลังออกสู่ตลาด กักตัวเสร็จผลไม้เน่าเสียหมด เกิดความเสียหายภาพรวมทั้งตำบล การที่เราทำงานเชิงรุกตรวจหาเชื้อในพื้นที่ ควบคุมการแพร่ระบาดได้จะสร้างความมั่นใจในเรื่องของเศรษฐกิจในพื้นที่ได้.
คอดีเย๊าะ เงินเจริญ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สตูล