นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวความขัดแย้งระหว่างคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ของพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลว่า หากพิจารณาเนื้อความอย่างถ่องแท้แล้ว เป็นเรื่องของการมองต่างกันที่มองผลประโยชน์ของประชาชนด้วยกันทุกฝ่าย ฝ่ายหนึ่งบอกว่าการสนองต่อผลประโยชน์ของประชาชนควรนำงบประมาณที่มีการปรับลดไปไว้ในงบกลาง แต่อีกฝ่ายก็คิดถึงประชาชนเหมือนกันว่าหากนำเงินดังกล่าวไปไว้ในงบกลางก็ไม่น่าจะดี จึงเสนอให้เอาไปไว้ที่อื่น
นายสุทิน กล่าวว่า เรามีเป้าหมายคือประชาชนเหมือนกัน แต่มองต่างกัน หากมองให้ดีจะเห็นว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้เห็นด้วยกับรัฐบาลทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องงบประมาณที่พรรคต่อสู้ และขัดแย้งกับฝ่ายรัฐบาลมามากเกือบ 90% มีการรบรากันเรื่องใหญ่ ๆ เช่น งบประมาณกระทรวงกลาโหมที่ถือเป็นกล่องดวงใจของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยก็ฟาดฟันจนมองหน้ากันกับรัฐบาลไม่ติด และยังมีอีกหลายประเด็นที่พรรคเพื่อไทยเห็นแย้งกับรัฐบาลมาตลอด ซึ่งตนก็เพิ่งเห็นเรื่องเดียวที่เห็นตรงกันคือเรื่องงบกลางนี้ ทั้งนี้ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับพรรคเพื่อไทยด้วยว่าเราไม่ได้มีจุดยืนที่จะไปให้ความร่วมมือหรือเห็นดีเห็นงามกับรัฐบาลในทุกเรื่อง อันไหนที่เป็นประโยชน์กับประชาชนเราก็ทำ แต่อันไหนที่คิดว่าไม่ใช่เราก็ต่อสู้และเชื่อว่าเราจะเข้าใจกัน พร้อมที่จะทำงานอย่างเต็มที่โดยเฉพาะการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
“ไม่ต้องกังวลอะไร เพราะปัญหาและบรรยากาศแบบนี้เคยมีเกิดขึ้นมาเรื่อยที่พรรคร่วมฝ่ายค้านบางเรื่องเห็นต่างกันเพราะจุดยืนและนโยบายเราต่างกัน แต่เรื่องไหนเห็นตรงกันเราก็ทำงานร่วมกันต่อไปได้ โดยเฉพาะเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นเรื่องของทุกคน” นายสุทิน กล่าว
เมื่อถามว่า ไม่ได้เป็นการปูทางเพื่อนำไปสู่การฮั้วกันในช่วงหลังการเลือกตั้งครั้งหน้าใช่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ไม่มีอะไรจะไปฮั้วกัน มีแต่เรื่องที่ต้องวางแผนต่อสู้ แต่บังเอิญบางเรื่องก็มาตรงกัน ดังนั้นอย่าไปคิดแบบนั้น เช่น เรื่องระบบการเลือกตั้งส.ส. อย่าไปคิดว่าจะเป็นเรื่องที่ฮั้วกัน เพราะพรรคเพื่อไทยก็อยู่ของเราแบบนี้ แต่คนอื่นเขาไปคิดว่าสถานการณ์เปลี่ยน เขาก็เลยเปลี่ยนมาหาเรา รวมถึงเรื่องงบประมาณที่ถูกตัดแล้วกลับไปอยู่ในงบกลางเกิดขึ้นแบบนี้มาแล้วหลายปี หลังจากที่มีการบังคับใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้
เมื่อถามย้ำว่าแต่ช่วงหลังพรรคพลังประชารัฐและพรรคเพื่อไทยเห็นตรงกันบ่อย นายสุทิน กล่าวว่า อาจจะด้วยความเป็นพรรคใหญ่ที่มีจุดยืนของตนเองและบังเอิญไปตรงกัน ยืนยันว่าไม่ได้มีเหตุผลอื่นถ้าจะให้ไปฮั้วกันหลังเลือกตั้งถือว่าเป็นเรื่องที่คิดไปไกลมาก