วันที่ 21 ก.ค. 2564 จากกรณี น้องกิ๊ฟ สาวรับจ้างเอ็นเทอร์เทนแขกตามงานเลี้ยงได้โพสต์ข้อความและภาพผ่านโซเชียล ว่าถูกข้าราชการที่เป็นปลัดเทศบาลตำบลแห่งหนึ่งในจังหวัดพะเยา ว่าจ้างให้ไปชงเหล้าที่งานเลี้ยงแห่งหนึ่งในเขตอำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐมแต่สุดท้ายถูกเชิดค่าตัว พร้อมเผยต่อมาว่ามีชายในกลุ่มอ้างตัวว่าเป็นตำรวจ ขอร่วมหลับนอนกับน้องในทีม แต่ทางฝ่ายหญิงไม่ยอมจนถูกชักอาวุธปืนข่มขู่ ก่อนจะวงแตกและแยกย้ายกันในคืนงานเลี้ยง
ซึ่งต่อมาทางด้าน ชายคนดังกล่าวได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ว่าจ้างน้องทีมงานทั้ง 5 คนมานงาน ส่วนประเด็นมีการว่าจ้างกันต่อในช่วงกลางดึกถึงเช้า ซึ่งกลุ่มสาวเอ็นท์ 4 คน ที่ได้ไปต่อกันที่ รีสอร์ตแห่งหนึ่งตนเองได้ให้พี่ชายโอนเงินจำนวน 6,000 บาท ไปแล้วซึ่งถูกระบุว่ากลุ่มสาวที่มาในงานนั้นไม่ได้ทำงานครบตามจำนวนชั่วโมงที่ได้ตกลงกันไว้ ส่วนในเรื่องมีประเด็นชายในกลุ่มที่ชักอาวุธปืนข่มขู่ก็ไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งประเด็นนี้เป็นเรื่องที่มีการถกกันในสังคมเพราะผู้ที่ถูกกล่าวหาเป็นข้าราชการ โดยมีการตั้งข้อสงสัยในการฝ่าฝืนกฎในการรวมตัวและฝ่าผืนการออกนอกเคหะสถานในพื้นที่ 13 จังหวัดที่เป็นพื้นที่สีแดงเข้ม
โดยวันนี้ พล.ต.ต.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต รอง ผบช.ภ.7 รรท.ผบก.ภ.จว.นครปฐม (เจดีย์ 2) และ พ.ต.อ.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม (ปฐม2) ได้สั่งการให้มีการติดตามในประเด็นดังกล่าว โดยสั่งการให้ พ.ต.อ.ไพบูลย์ แพรสีนวล ผกก.สภ.กำแพงแสน พ.ต.อ.ภานุทัต เหลืองสัจกุล ผกก.สส.ภ.จว.นครปฐม พร้อมพวกลงพื้นที่ในการติดตามหาข้อมูลต่างๆที่เกิดขึ้น โดยได้ไปตรวจสอบที่บ้านที่จัดงานเลี้ยง มีการจัดงานในเวลา 17.00-20.00 น. ของวันที่ 17 กรกฎาคม ที่อำเภอกำแพงแสน และรีสอร์ตที่ห่างจากบ้านพัก ประมาณ 500 เมตร จุดที่มีประเด็นในการข่มขู่เพื่อขอร่วมหลับนอนและมีการชักอาวุธปืนจนทำให้กลุ่มสาวๆหวาดกลัว เพื่อรวบรวมหลักฐานสำหรับดำเนินคดีกับกลุ่มคนที่อยู่ในเหตุการณ์ และได้เชิญตัว น้องกิ๊ฟ คนโพสต์มาให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน สภ.กำแพงแสนหลังเกิดประเด็นข่าว
ต่อมา พล.ต.ต.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต รอง ผบช.ภ.7 รรท.ผบก.ภ.จว.นครปฐม (เจดีย์ 2) และ พ.ต.อ.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม (ปฐม2) ได้แถลงข่าวความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว โดยเผยว่าสำหรับการติดตามเหตุการณ์แล้วพบว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นแบ่งเป็น 2 เรื่อง ประเด็นแรกคือเมื่อวัน 17 กรกฎาคม ที่บริษัทที่มีการจัดงานเลี้ยงที่มีคนร่วมงาน 10 กว่าคน โดยตรงนั้นมีการการกระทำความผิดในการร่วมตัวมั่วสุมกันเกินกว่า 5 คน เป็นความผิดฝ่าฝืนตาม พ.ร.ก. ต่อมาประเด็นที่สองในคืนวันที่ 17 ต่อเนื่องไปยังตี 1 เข้าวันที่ 18 นั้น มีชายกลุ่มดังกล่าว 3 คนและเด็กที่รับงาน 4 คน เดินออกจากบริษัทไปที่รีสอร์ต ตรงนี้ก็มีความผิดในการออกนอกเคหะสถานในเวลาที่มีการห้ามโดยไม่มีเหตุจำเป็นส่วนที่สองคือการที่มีชายคนหนึ่งต้องการที่ร่วมหลับนอนกับผู้หญิงหนึ่งคนในนั้นแต่ทางฝ่ายหญิงไม่ยอมจึงมีการใช้กำลังข่มขู่ โดยมีการใช้อาวุธปืนและบอกว่าจะยิงแต่ไม่ได้ยิง ตรงนี้ก็เป็นความผิดฐานข่มขู่ทำให้หวาดกลัว ซึ่งจะตรวจสอบว่าเป็นอาวุธจริงหรือไม่
พล.ต.ต.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต รอง ผบช.ภ.7 กล่าวอีกว่าสำหรับชายคนดังกล่าวที่ปรากฏในเบื้องต้นนั้นว่าเป็นปลัด เบื้องต้นตรวจสอบแล้วว่าชื่อเมฆิน ไม่ได้เป็นปลัดแต่เป็นหัวหน้าสำนักงานปลัดในเทศบาลตำบล ในจังหวัดแห่งหนึ่งในภาคเหนือ ส่วนชายที่ชักปีนขึ้นมาแล้วอ้างว่าเป็นตำรวจนั้น ตรวจสอบแล้วชัดเจนว่าชื่อนายณัฐชัย หรือชื่อเดิมว่าชื่อสมคิด ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่มีลักษณะตัดผมสั้นจึงทำให้ดูเหมือนว่าเป็นตำรวจ สำหรับการดำเนินคดีตอนนี้พนักงานสวบสวน สภ.กำแพงแสนได้รับเรื่องเพื่อดำเนินคดีแล้ว ซึ่งจะมีการติดตามตัวเพื่อมารับทราบข้อกล่าวหา โดยเป็นการออกหมายเรียกต่อไป
ปนิทัศน์ มามีสุข นส.ปณิดา มามีสุข จ.นครปฐม
