จากกรณีวัดเถรพลาย ต.วังน้ำซับ อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี จัดพิธีเผาศพผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 โดยใช้เตาเผาแบบเมรุลอยกลางแจ้ง จนมีกระแสข่าวออกมาว่าไม่เหมาะสมและเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยนั้น ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่มูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี ยืนยันว่าทางวัดทำตามมาตรการ การป้องกันโควิด19 แพร่ระบาด ของสาธารสุขอย่างเคร่งครัด เพราะว่ามีความจำเป็นต้องช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ที่กำลังได้รับความเดือดร้อน ช่วงสถานการณ์โควิค19แพร่ระบาด
ที่ จ.สุพรรณบุรี วันที่ 20 ก.ค. 2564 พระครูพิสุทธิรัตนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดเถรพลาย ต.วังน้ำซับ อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี น.ส.จันทรัตน์ พงษ์พันธ์ ปลัดอำเภอศรีประจันต์ ได้รับมอบหมายจากนายปิยะพงษ์ บุญส่ง นายอำเภอศรีประจันต์ ร่วมกับนายสมศักดิ์ ขลังธรรมเนียม เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขชำนาญงาน รพ.ศรีประจันต์ พร้อมเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และเจ้าหน้าที่มูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี ร่วมกันจัดพิธีเผาศพผู้ป่วยจากโควิด 19 เป็นหญิงอายุ 63 ปีชาว อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี ผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด19 รายที่ 28 ของจังหวัดสุพรรณบุรี ทางญาติ ได้ให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี นำศพมาประกอบพิธีฌาปนกิจที่วัดเถรพลาย เนื่องจากทางวัดเถรพลาย รับเผาศพผู้เสียชีวิตจากโควิด19 และรับเผาศพไร้ญาติ ผู้ยากจน ให้ฟรี โดยทางเจ้าอาวาสวัดเถรพลาย จะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ในทุกๆ กรณี เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนช่วงสถานการณ์โควิค19แพร่ระบาด
พระครูพิสุทธิรัตนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดเถรพลาย เปิดเผยว่าทางวัดเถรพลายมีความจำเป็นต้องนำศพมาประกอบพิธีฌาปนกิจเมรุลอยกลางแจ้ง รายนี้เป็นรายที่ 2 เนื่องจากเมรุของทางวัดที่ใช้งานมานานหลายสิบปี เริ่มชำรุดทรุดโทรม และเตาเผาก็เป็นแบบเก่าใช้ถ่าน ทางวัดจึงจำเป็นต้องเร่งปรับปรุงเมรุที่ใช้ถ่านแบบเก่า ให้เป็นระบบใช้น้ำมันไร้มลภาวะ ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการซ่อมแซมปรับปรุงเมรุ จึงต้องนำเตาเผาแบบเมรุลอย โดยมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอศรีประจันต์และ เจ้าหน้าที่มูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี มาดูและคุมเข้มตามมามาตรของสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ทั้งจำกัดบุคคลที่มาร่วมพิธี ให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ เว้นระยะห่าง ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อทั่วบริเวณ เพื่อความปลอดภัยของทุกคน และเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด19
พระครูพิสุทธิรัตนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดเถรพลาย เปิดเผยว่าทางญาติของผู้เสียชีวิตรายนี้ มีความประสงค์จะนำศพผู้เสียชีวิดจากโควิด19 มาฌาปนกิจที่วัดเถรพลาย ซึ่งได้แจ้งกับทางญาติไปว่า ขณะนี้เมรุอยู่ระหว่างปรับปรุง หากจะนำศพมาเผาที่วัดเถรพลายช่วงนี้ ต้องทำพิธีเผาเตาเผาเมรุลอยกลางแจ้ง ทางญาติก็ยอมรับได้ จึงได้นำศพมาเผาเมรุกลางแจ้ง ซึ่งทางวัดจะปฏิเสธไม่รับเผาศพในช่วงนี้ก็ไม่ได้ เนื่องจากประชาชนกำลังได้รับความเดือดร้อนจากโควิด 19 ญาติผู้เสียชีวิตบางรายก็ไม่มีเงินที่จะจัดพิธีเผาศพอีกด้วย ประกอบกับทางวัดรับเผาศพผู้เสียชีวิตจากโควิด19 และศพไร้ญาติ ผู้ยากจน ให้ฟรี ในทุกๆ กรณีอยู่แล้ว
นายสมศักดิ์ ขลังธรรมเนียม เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุข รพ.ศรีประจันต์ เปิดเผยว่าทางสาธารณสุขได้เข้ามาช่วยดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย ในการเผาศพผู้เสียชีวิตจากโควิด19ที่วัดเถรพลายนี้ ทุกราย ขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่าการเผาศพกลางแจ้ง ปลอดภัยจากมลพิษแน่นอนเนื่องจากเราปฏิบัติตามมาตรการอย่างเข็มงวด ซึ่งจะใช้เมรุลอยชั่วคราวระหว่างรอทางวัดกำลังปรับปรุงเมรุอันเก่าให้แล้วเสร็จ ที่สำคัญญาติผู้เสียชีวิตที่นำศพมาเผาที่วัดเถรพลายแห่งนี้ เนื่องจากได้รับความเมตตา จากเจ้าอาวาสที่รับจัดพิธีเผาศพให้ฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ
น.ส.จันทรัตน์ พงษ์พันธ์ ปลัดอำเภอศรีประจันต์ เปิดเผยว่าฝ่ายปกครอง ซึ่งได้รับมอบหมายจาก นายปิยะพงษ์ บุญส่ง นายอำเภอศรีประจันต์ ให้มาดูแลความเรียบร้อยในการเผาศพเมรุกลางแจ้ง โดยได้มีการพูคุยกับประชาชนในพื้นที่ให้เข้าใจถึงสาเหตุที่ฌาปนกิจกลางแจ้งโดยใช้เมรุลอย ซึ่งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาช่วยกันอย่างเต็มที่ จะไม่ส่งผลกระทบทั้งมลพิษและสิ่งแวดล้อมกับประชาชนอย่างแน่นอน ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่เข้าใจแล้วว่าทางวัดกำลังปรับปรุงเมรุเก่าที่มีสภาพเก่าให้ดี จึงมีความจำเป็นต้องใช้เตาเผาเมรุลอยชั่วคราวในช่วงนี้
สำหรับการปรับปรุงเมรุจากเตาเผาแบบเก่าใช้ถ่าน มาเป็นเมรุใช้น้ำมันไร้มลภาวะไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ทางวัดเถรพลายยังขาดแคลนทุนทรัพย์อยู่ จำนวนมากผู้ใจบุญที่มีจิตศรัทรา จะร่วมสมทบทุนบูรณะเมรุวัดเถรพลาย สามารถร่วมทำบุญสมทบทุนบริจาคได้ที่บัญชี วัดเถรพลาย ธนาคารกรุงไทย สาขาศรีประจันต์ เลขที่บัญชี 980-7-57282-7 สอบถามรายเพิ่มเติมได้ที่ 080-265-8665
