วันที่ 15 ก.ค. 2564 นายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (สบอ.3) สาขาเพชรบุรี พร้อมด้วย นายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน หรือ “หมอล็อต” หัวหน้ากลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช นางสาวภัทริน โอภาสชัยทัตต์ นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ พร้อมสัตวแพทย์และผู้ช่วยสัตวแพทย์ นายอิทธิพล ไทยกมล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ปศุสัตว์เพชรบุรี และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมหารือวางแนวทางการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคลัมปีสกิน (Lumpy skin disease : LSD) ซึ่งเป็นโรคระบาดสัตว์ในกลุ่มโคกระบือ ที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ กจ.2 (เขาสามยอด) อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ภายหลังจากอุทยานแห่งชาติกุยบุรีพบซากกระทิงเพศผู้ อายุประมาณ 15-20 ปี น้ำหนักประมาณ 1,200-1,300 กิโลกรัม นอนตายอยู่ในลำห้วย หมู่ที่ 7 หมู่บ้านรวมไทย ต.หาดขาม อ.กุยบุรี เบื้องต้นสาเหตุการตายเกิดจากการต่อสู้กันเอง จากนั้นได้ส่งชิ้นเนื้อกระทิงส่งตรวจหาเชื้อลัมปีสกินยังห้องปฏิบัติการและตรวจพบสารพันธุกรรมของเชื้อลัมปีสกิน ซึ่งภายหลังการประชุมสัตวแพทย์จากปศุสัตว์จังหวัดเพชรบุรีได้ออกทำการรักษาโคของชาวบ้านที่ติดเชื้อไวรัสลัมปีสกินในพื้นที่ใกล้เคียงกับอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานด้วย
นายพิชัย กล่าวว่าแนวทางและมาตรการในการเฝ้าระวังโรคในสัตว์ป่าโดยให้เจ้าหน้าที่อุทยานสังเกตอาการป่วยหรือตายผิดปกติของวัวป่า ควายป่า และกลุ่มสัตว์กีบในพื้นที่รับผิดชอบ และให้เข้มงวดในการเฝ้าระวังและป้องกันโรคในสัตว์ป่า ติดตามสถานการณ์ของโรค สุขภาพ และการทำวัคซีนของปศุสัตว์ในสัตว์โดยรอบเพื่อประเมินสถานการณ์ในพื้นที่รับผิดชอบของหน่วยงาน โดยเฉพาะหน่วยงานที่มีสัตว์กลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อให้ทำการควบคุม ป้องกันแมลงพาหะอย่างเข้มงวด รวมถึงเฝ้าระวังและสังเกตอาการของสัตว์ป่าเป็นประจำ หากพบสัตว์ป่าป่วยโดยมีตุ่มโตประมาณ 2-5 เซนติเมตรขึ้นที่ผิวหนังทั่วร่างกาย พบมากที่คอ หัว เต้านม ถุงอัณฑะและช่วงขา รวมทั้งสัตว์ป่าที่มีอาการเดินผิดปกติ หรือในกรณีที่พบสัตว์ป่าตายให้แจ้งสัตวแพทย์ที่อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบหรือหน่วยงานใกล้เคียงเข้าดำเนินการตรวจสอบ พร้อมเก็บตัวอย่างส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อยืนยันสาเหตุของการป่วยหรือตาย พร้อมกันนี้ได้กำหนดแนวเขตกันชน ห้ามไม่ให้มีการนำสัตว์เลี้ยงเข้าสู่พื้นที่ป่าอนุรักษ์ และควบคุมไม่ให้มีการใช้พื้นที่ชายขอบป่าอนุรักษ์ในการเลี้ยงสัตว์ปศุสัตว์ และประชาสัมพันธ์และขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ร่วมกันเฝ้าระวังการป่วยหรือตายผิดปกติของสัตว์ป่าเพื่อแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการต่อไป ขณะนี้อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานดำเนินการจัดทำอ่างน้ำยาฆ่าเชื้อที่ติดมากับล้อรถยนต์ และฉีดพ่นยาควบคุมแมลงให้กับเจ้าหน้าที่ ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านเข้าออกพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานแล้ว และในวันพรุ่งนี้ (16 ก.ค.) ตนพร้อมด้วยหมอล็อต ทีมสัตวแพทย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะลงพื้นที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี เพื่อตรวจสอบและหารือแนวทางป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสลัมปีสกิน ในสัตว์ป่า
ด้านนายสัตวแพทย์ยุษฐิระ บัณฑุกุล ปศุสัตว์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่าภายหลังพบซากกระทิงกุยบุรีติดเชื้อไวรัสลัมปีสกินได้ทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดฯ แจ้งกำชับ 4 หมู่บ้านใน ต.หาดขาม อ.กุยบุรี คือหมู่ 6. 7, 8, 9 ให้เฝ้าระวังห้ามการเคลื่อนย้ายโคและกระบือจากต่างพื้นที่เข้ามาในหมู่บ้าน พร้อมประสาน อบต.หาดขาม เพิ่มความถี่ในการออกฉีดพ่นยาฆ่าแมลงพาหะนำโรคในคอกและโรงเรือนของเกษตรกร ได้เสนอเรื่องขอรับการสนับสนุนวัคซีนป้องกันโรคลัมปี สกิน ไปยังกรมปศุสัตว์ เพื่อนำมาฉีดให้กับโคและกระบือของเกษตรกรรวมกว่า 2,000 ตัว ในพื้นที่ 4 หมู่บ้านที่อยู่ติดกับเขตอุทยานฯ และรณรงค์ให้เกษตรกรอย่านำโคและกระบือออกไปเลี้ยงตามแนวชายป่าใกล้เขตอุทยานฯเพื่อลดความเสี่ยงการแพร่เชื้อ
