โดยในเขตอุทยานมรดกโลกเซอร์รา ดา เอสเตรลา พื้นที่อนุรักษ์ที่ใหญ่ที่สุดของโปรตุเกส ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องสัตว์ป่านานาชนิด รวมถึงแมวป่าและกิ้งก่า ไฟป่าที่ถูกควบคุมได้เมื่อ 5 วันที่แล้ว ได้กลับมาลุกไหม้อีกรอบ และมีกระแสลมแรงเป็นอุปสรรคในการดับไฟ ทำให้เจ้าหน้าที่นักดับเพลิงกว่า 1 พัน 2 ร้อยคน ต้องทำงานอย่างหนัก ร่วมกับเครื่องบินดับเพลิงจำนวน 8 ลำ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่เสียชีวิตแล้ว 1 รายขณะปฏิบัติหน้าที่ ด้วยอาการหัวใจล้มเหลว คาดว่าไฟป่าได้ทำลายพื้นที่ในอุทยานไปแล้วประมาณ 1 แสน 5 หมื่นไร่
ในปีนี้เกิดไฟไหม้ในโปรตุเกสแล้ว 195 ครั้ง ส่งผลให้มีพื้นที่ถูกไฟเผากว่า 5 แสน 7 หมื่น 5 พัน ไร่ทั่วประเทศ ท่ามกลางอากาศที่ร้อนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบเกือบร้อยปี ไฟป่าในปีนี้เป็นไฟป่าครั้งที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2017 ส่งผลให้มีเสียชีวิตแล้วราว 100 ราย นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์ว่าไฟป่าจะเกิดขึ้นอีก จนกว่าจะสิ้นสุดวิกฤตคลื่นความร้อนที่จะคงอยู่ในโปรตุเกสจนถึงเดือนกันยายน
ส่วนสเปนซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านของโปรตุเกส ก็กำลังเผชิญกับไฟป่าเช่นกัน ณ เขตวาเลนเซีย ในภาคตะวันออก ไฟป่าเกิดขึ้น 2 แห่ง ในเมืองเบจิส (Bejis) และเมือง วาล เดอ อีโบ (Valle de Ebo) โดยไฟป่าในเบจิสนั้นลุกลามอย่างรวดเร็ว และเผาผลาญพื้นที่ไปกว่า 6 หมื่น 2 พัน 5 ร้อยไร่ ต้องอพยพประชาชนถึง 1,500 คน ส่วนไฟป่าในวาล เดอ อีโบ ได้ทำลายพื้นที่ไปแล้วประมาณ 6 หมื่น 8 พันไร่ ขณะเดียวกันก็มีฝนตกลงมา ทำให้คาดว่าจะช่วยสกัดเปลวเพลิงที่กำลังลุกลามได้