นายแพทย์สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. กล่าวถึงกรณีประกาศกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับชุดตรวจหาแอนติเจนด้วยตัวเอง ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงนามและประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม และมีผลบังคับใช้ทันทีว่า มีบริษัทผู้ผลิตหรือนำเข้าชุดตรวจแอนติเจน 24 บริษัท เป็นชุดทดสอบที่ใช้โดยบุคลากรทางการแพทย์ เก็บตัวอย่างจากโพรงจมูกด้านหลัง เมื่ออนุมัติให้ใช้ด้วยตนเอง จึงปรับชุดทดสอบเป็นการเก็บตัวอย่างจากโพรงจมูกด้านหน้า
ซึ่ง อย.ได้เร่งให้บริษัทจัดทำคู่มือในการอธิบายประชาชนและแสดงหลักฐานว่า ชุดตรวจที่เก็บตัวอย่างจากการแยงโพรงจมูกด้านหน้ามีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับการแยงโพรงจมูกด้านหลัง ขณะนี้มีบริษัทที่ยื่นเรื่องเข้ามาปรับชุดตรวจเป็นโพรงจมูกด้านหน้าประมาณ 7 บริษัท คาดว่าจะเริ่มใช้ได้จริงในสัปดาห์หน้า อีกทั้งระหว่างนี้ อย. และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้เร่งทำคลิปวิดีโออธิบายการใช้ในประชาชน เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องถึงขั้นตอนการทำ ตั้งแต่การเก็บตัวอย่างการแยงโพรงจมูกด้านหน้าที่ต้องลึกประมาณ 1-2 เซนติเมตร ปั่นจมูกชิดด้านขวา เพื่อให้ตัวอย่างที่เก็บมีความสมบูรณ์ การนำมาแช่ในน้ำยา และวิธีการจัดเก็บทำลายเพื่อไม่ให้กลายเป็นขยะติดเชื้อ
สำหรับการวางจำหน่ายชุดทดสอบนี้จะทำในร้านขายยาที่มีเภสัชกร และต้องมีรายงานการจำหน่ายมายังอย.เหมือนกับเครื่องมือแพทย์ทั่วไป ซึ่งภายในสัปดาห์นี้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. ได้กระจายชุดทดสอบนี้ลงไปในคลินิกชุมชนอบอุ่นแล้ว
อย่างไรก็ตาม อย.ยังกังวลถึงการใช้ชุดตรวจที่ถูกต้อง เพราะวิธีการตรวจนี้อาจไม่แม่นยำเท่า RT-PCR แต่เหมาะสำหรับคนเสี่ยงสูงที่ไม่มีอาการ ต้องการรับการตรวจอย่างรวดเร็ว และต้องควบคู่กับมาตรการกักตัวอย่างเคร่งครัด เพราะบางรายผลตรวจเป็นลบ ต้องตรวจซ้ำใน 3 วันถัดไปหรือเมื่อมีอาการ เพื่อความแม่นยำปลอดภัย และเมื่อตรวจแล้วยังต้องมีช่องทางการติดต่อกับสถานพยาบาลด้วย ทุกอย่างต้องทำอย่างเป็นระบบ