No data was found

ฟาวิพิราเวียร์ของไทยเตรียมขึ้นทะเบียนยา อย.เดือนนี้

กดติดตาม TOP NEWS

ทำเนียบฯ 13 ก.ค.- รัฐบาลเผยข่าวดี ยาฟาวิพิราเวียร์วิจัยและพัฒนาในประเทศ ลุ้นขึ้นทะเบียนตำรับยาจาก อย.กรกฎาคมนี้ รัฐ-เอกชนจับมือต่อยอดผลิตเชิงพาณิชย์ลดนำเข้าจากต่างประเทศ

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามความคืบหน้าการวิจัยและพัฒนาการผลิตยาฟาวิพิราเวียร์ในประเทศ สำหรับต้านไวรัสโควิด19 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนตามแผนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจ BCG (Bio-Circula-Green Economy) ของรัฐบาล โดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) รายงานว่า ได้มีการลงนามความร่วมมือระหว่าง สวทช. องค์การเภสัชกรรม (อภ.) และ บริษัท ปตท. เพื่อร่วมกันวิจัยและพัฒนากระบวนการสังเคราะห์สารตั้งต้น (Active Pharmaceutical Ingredients : API) ของการผลิตยาฟาวิพิราเวียร์ ความเป็นไปได้ในการผลิตเชิงพาณิชย์ เพี่อสร้างความมั่นคงทางยาให้แก่ประเทศไทย โดยความร่วมมือดังกล่าว มีความคืบหน้าอย่างมาก สามารถสังเคราะห์สารตั้งต้นที่มีความบริสุทธิผ่านเกณฑ์มาตรฐาน และยังเป็นการสังเคราะห์จากสารตั้งต้นที่มีราคาถูกโดยไม่ต้องนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันต้องมีการนำเข้ามากถึงร้อยละ 95

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มากไปกว่านั้น ในเดือนกรกฎาคมนี้ ทางองค์การเภสัชกรรมคาดว่า ยาฟาวิพิราเวียร์ที่ได้วิจัยและพัฒนาขึ้นนั้น จะได้รับการขึ้นทะเบียนตำรับยาจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และจากนั้นจะเป็นการผลิตเชิงพาณิชย์เพื่อให้ผู้ป่วยโควิด19 เข้าถึงยาอย่างเพียงพอ เมื่อทุกอย่างสำเร็จลุล่วง ประเทศไทยจะสามารถผลิตยาฟาวิพิราเวียร์ในราคาที่ถูกกว่านำเข้าอย่างมาก

น.ส.รัชดา กล่าวถึงความร่วมมือระหว่าง สวทช. อภ. และ บริษัท ปตท. ว่า ครอบคลุมตั้งแต่การทดสอบในระดับห้องปฏิบัติการ (Laboratory scale) การถ่ายทอดเทคโนโลยีจนถึงระดับอุตสาหกรรม (Industrial scale) ตลอดจนการศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาสารออกฤทธิ์ทางเภสัชกรรม (Feasibility Study) ที่มีศักยภาพในเชิงพาณิชย์ จึงถือเป็นอีกหนึ่งโมเดลความร่วมมือรัฐ-เอกชนในการพัฒนาอุตสาหกรรมยา ขณะเดียวกันการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด19 โดยนักวิจัยไทยก็มีความก้าวหน้าไปมากเช่นกัน แสดงให้เห็นถึงความสามารถทางด้านการแพทย์และสาธารณสุขของไทย ระยะยาวนำไปสู่การลดการนำเข้า และยังเป็นแนวทางหนึ่งที่ช่วยให้ประเทศก้าวพ้นกับดักรายได้ปานกลาง ซึ่งบุคคลากรมีทั้งความรู้และนำไปต่อยอดเพื่อการผลิตขายต่อไปด้วย

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ทนายอนันต์ชัย" ลั่นอยากมีเรื่อง เดี๋ยวจัดให้ ฮึ่ม "เชื่อมจิต" เรียงข้อหาเอาผิดไว้แล้ว
ป.ป.ช.ชี้มูลผิด "บิ๊กปตท."กับพวก รับสินบน "บ.โรลส์-รอยซ์"
"สมาคมธนาคารไทย" เตรียมพิจารณาแนวทางเพิ่ม ช่วยเหลือ "ลูกค้ากลุ่มเปราะบาง" ลดภาระทางการเงิน
สวยสังหาร นักแม่นปืนสาวกะเหรี่ยง สุดโหด แบกอาวุธซุ่มยิงแบบกองโจร รัวใส่ทหาร SAC
"ส.ต.ต.หญิง" โพสต์อัปเดตชีวิตอาการล่าสุด หลังป่วยหนักเป็นซึมเศร้า ตอนนี้เตรียมเริ่มงานที่ใหม่แล้ว
AI บูม หนุนใช้ก๊าซเพื่อผลิตไฟฟ้า พุ่งในอีก 5 ปีหน้า
UN เรียกร้องนานาชาติสอบสวนการเสียชีวิตที่รพ.ในกาซา
"วลัยพร ช่วยยก" เดินหน้าอาชีพมั่นคงหนุนสร้างอาชีพชุมชน ... ยก "ห้าดาว" เป็นธุรกิจแห่งโอกาส
“วันนอร์” เตือนอย่าดันทุรัง ชงแก้รธน. รอทำประชามติก่อน
กาซา ทารกรอดปาฏิหาริย์ จากผ่าคลอดแม่ที่กำลังจะตาย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น