นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงผลการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติว่า ที่ประชุมเห็นชอบการฉีดวัคซีนบูสเตอร์โดสให้กับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า โดยให้วัคซีนเข็มที่ 3 ห่างจากเข็มที่ 2 ในระยะตั้งแต่ 3-4 สัปดาห์ขึ้นไป ซึ่งบุคลากรทางการแพทย์ส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนสองเข็มเกิน 4 สัปดาห์แล้ว
ดังนั้นจะสามารถฉีดบูสเตอร์โดสได้ทันที เพื่อกระตุ้นให้เกิดภูมิคุ้มกันสูงแก่บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า ที่เสี่ยงต่อการสัมผัสเชื้อโควิดจากการดูแลผู้ป่วย ทั้งนี้การฉีดบูสเตอร์โดสจะเป็นวัคซีนแอสตราเซเนกาเป็นหลัก นอกจากนี้ที่ประชุมเห็นชอบแนวทางการใช้ชุดตรวจด้วยตัวเอง หรือ Rapid Antigen Test เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงการตรวจหาเชื้อ ประชาชนจะได้ไม่ต้องรอคิวนานในการไปตรวจหาเชื้อ อย่างไรก็ดีชุดตรวจดังกล่าวจะต้องผ่านการรับรองจาก อย. ซึ่งปัจจุบันมีผู้มีขึ้นทะเบียนแล้ว 24 ราย โดยจะอนุญาตให้ตรวจในสถานพยาบาล หรือหน่วยตรวจที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ที่ปัจจุบันมีมากกว่า 300 แห่ง และเร็วๆนี้จะอนุญาตให้ตรวจเองที่บ้าน
ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ยังเห็นชอบการแนวทางการแยกกักตัวที่บ้าน หรือ Home Isolation สำหรับผู้ป่วยที่ไม่มีอาการรุนแรง และการแยกกักในชุมชน หรือ Community Isolation