วันที่11 ก.ค. 2564 ผู้ใช้ยูทูป Doctor Tany ของ นพ.ธนีย์ ธนียวัน อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคปอด วิกฤตบำบัด และการปลูกถ่ายปอด สหรัฐอเมริกา ได้เผยแพร่วิดีโอคลิปความยาวเกือบ 20 นาที หัวข้อ “ติดโควิดลงปอด แต่ไม่มีเตียงโรงพยาบาล ควรปฏิบัติตัวอย่างไร” โดยระบุว่า ในระหว่างรอเตียงโรงพยาบาล ถ้ามีอาการเหนื่อยให้สงสัยว่าโควิดลงปอดไว้ก่อน สำหรับคนที่ไม่แน่ใจว่าเหนื่อย ให้ลองเดินไปมา ลุกยืนจากท่านั่งสักสามครั้ง หรือกลั้นหายใจสัก 10-15 วินาที ถ้าทำแล้วเหนื่อย ก็แสดงว่าเหนื่อยจริงๆ ถ้าคนที่มีเครื่องวัดออกซิเจนแล้วเจอออกซิเจนต่ำกว่า 94% ลงไปก็ถือว่าโควิดน่าจะลงปอด ให้ทำในข้ออื่นๆ ด้วย นอนคว่ำ อย่าเดินไปมามากถ้าเหนื่อย ถ้านอนคว่ำไม่ได้ให้นอนตะแคง สำหรับคนท้องให้นอนตะแคงเอาด้านซ้ายลง พยายามขยับขาบ่อยๆ ถ้านอน เพื่อป้องกันการเกิดลิ่มเลือด
นพ.ธนีย์ อธิบายต่อว่า การรับประทานอาหารให้เพียงพอ ถ้ารับประทานไม่ได้ให้ดื่มน้ำประมาณ 2-2.5 ลิตรต่อวัน รับประทานมากไปก็ไม่ดี ถ้ารับประทานอาหารไม่ได้เลยควรดื่มน้ำเกลือแร่ เช่น ที่ใช้เวลาท้องเสีย น้ำเกลือแร่ที่ดื่มเวลาออกกำลังกาย ถ้าไม่มีให้ผสมเกลือสักช้อนชาหนึ่งกับน้ำตาลลงในน้ำแล้วดื่มได้
– รับประทานยาประจำตัวสม่ำเสมอ อย่าขาด กรณีที่เป็นเบาหวานควรตรวจน้ำตาลบ่อยๆ ถ้าต่ำควรงดอินซูลิน หรือยากิน ถ้าเป็นโรคความดันโลหิตสูง ควรวัดความดันบ่อยๆ ถ้าต่ำเช่น 90/60 ควรงดยา ถ้ากินยาขับปัสสาวะอยู่และดื่มน้ำไม่ได้ ให้งดยาไปก่อน
– เตรียมยาพาราเซตามอล ไทลินอล ไว้กินเวลามีไข้ อย่ากินยากลุ่มอื่นโดยเฉพาะ NSAID เช่น ibuprofen, naproxen, mefenamic acid (ponstan), diclofenac (voltaren) เพราะอาจทำให้เกิดปัญหาได้ ถ้าแพ้ยาพาราฯ ให้เช็ดตัวเอา ถ้าจะกินสมุนไพรฟ้าทะลายโจร ก็กินตามที่กำหนดที่ข้างฉลาก อย่ากินเกิน ท่านที่มีโรคตับห้ามกินเพราะอาจทำให้ตับวาย
– ถ้าเหนื่อยมาก อย่าไปเข้าห้องน้ำ เพราะการเบ่งถ่าย และลุกนั่งอาจทำให้เป็นลมหมดสติ หัวใจหยุดเต้นได้ ควรเข้าที่ข้างเตียงเลยดีที่สุด ใช้กระโถน กระดาษ หรืออะไรที่หาได้ …ถ้าจะเข้าห้องน้ำ อย่าล็อกประตูเด็ดขาด และควรบอกคนอื่นๆ ในครอบครัวด้วย มีหลายรายที่เหนื่อยแล้วไปเข้าห้องน้ำ จากนั้นเป็นลม หัวใจหยุดเต้นครับ ท่านที่ท้องผูก ให้กินยาระบาย ดื่มน้ำมากๆ การเบ่งอุจจาระจะทำให้หน้ามืดได้ในกรณีที่ออกซิเจนต่ำ
– หมั่นติดต่อกับครอบครัว ญาติ เพื่อนๆ เพื่อแจ้งอาการสม่ำเสมอ
คลิปดังกล่าวมีผู้ชมมากกว่า 1 แสนครั้ง พร้อมกับขอบคุณ นพ.ธนีย์ ที่ให้ความรู้เรื่องดังกล่าว
