วันที่ 10 ก.ค.-ที่จ.อำนาจเจริญ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงที่เกรงว่าการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ จะเกิดความล่าช้า หลังมีการประกาศล็อกดาวน์ ว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามประกาศของ ศบค. และประกาศของประธานรัฐสภาที่จะมีดุลพินิจร่วมกับวิป 4 ฝ่าย ซึ่งผลจะออกมาเป็นอย่างไรก็ต้องปฏิบัติไปตามนั้น แต่เมื่อมีการเปิดประชุมสภาได้สั่งการไปยัง ส.ส.ของพรรคทุกคนให้ร่วมมือในการทำหน้าที่เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง เพื่อให้งานของสภาสามารถเดินต่อไปได้ เนื่องจากการแก้ปัญหาของประชาชนหลายเรื่องจำเป็นต้องอาศัยมติของสภา ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็จะเร่งดำเนินการจนสุดความสามารถ ผลจะออกมาเป็นอย่างไรยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์จะทำหน้าที่จนนาทีสุดท้าย
นายจุรินทร์ยังกล่าวถึงกรณีที่พรรคขนาดเล็กมองว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคขนาดใหญ่ว่า ประเด็นนี้เป็นไปตามความต้องการที่จะเห็นประชาชนได้ลงคะแนนอย่างมีเสรีภาพในการตัดสินใจมากขึ้น เพราะระบบเดิมที่เป็นบัตรใบเดียวเป็นการเอาผู้สมัคร ส.ส.กับพรรคการเมืองมามัดรวมกัน จะเลือกแยกก็ไม่ได้ เป็นเหมือนการถูกมัดมือชกเหมือนข้าวต้มมัด แต่เมื่อเป็นบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ประชาชนก็สามารถเลือกผู้สมัคร ส.ส.กับพรรคการเมืองแยกจากกันได้ ซึ่งเป็นไปตามหลักการไม่ได้เป็นการเอื้อพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง
รวมถึงการคำนวณคะแนนของ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่ในการแก้ไขครั้งนี้ได้มีการกำหนดคะแนนขั้นต่ำไว้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 1 ที่ต่างจากในอดีตนั้นรัฐธรรมนูญปี 2540 กำหนดไว้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 5 ซึ่งถือว่าเป็นการผ่อนปรนเปิดโอกาสให้พรรคขนาดเล็กสามารถได้รับคัดเลือกในระบบบัญชีรายชื่อด้วย ส่วนแต่ละพรรคจะมีความเห็นอย่างไรเป็นสิทธิ และก็ต้องเคารพความเห็นของทุกฝ่าย สุดท้ายก็ต้องไปพิจารณาในขั้นการแปรญัตติของคณะกรรมาธิการที่กำลังดำเนินการอยู่
ส่วนว่าหากมีพรรคขนาดเล็กยื่นศาลรัฐธรรมนูญจนทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญสะดุดไม่สามารถแก้ไขได้นั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า ยังไม่สามารถตอบได้ เพราะทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง หากจะต้องไปถึงจุดนั้นก็ต้องเป็นไปตามข้อเท็จจริงว่าจะมีการยื่นหรือไม่ แต่ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์จะทำหน้าที่จนนาทีสุดท้ายเต็มกำลังความสามารถ