No data was found

สุดสะเทือนใจ! หญิงพม่าดับปริศนาคาห้อง หลังป่วยไปหาหมอแต่ไม่ได้ตรวจโควิด เพียงแต่ให้ยามากิน

กดติดตาม TOP NEWS

เพจสายไหมต้องรอด ไลฟ์สดขณะเจ้าหน้าที่มูลนิธิ เข้าไปเก็บศพหญิงชาวเมียนมารายหนึ่งในห้องเช่าถนนพหลโยธิน 52 ชี้ก่อนจะเสียชีวิตถูกอาสากู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลแล้ว แต่แพทย์ไม่ได้ตรวจโควิด เพียงแต่ให้ยากลับมากิน ก่อนจะกลับมาห้องพักและเสียชีวิตในที่สุด

เรื่องราวสุดสะเทือนใจนี้ เกิดขึ้นที่บริเวณตึกแถว บนถนนพหลโยธิน 52 ซึ่งแบ่งเป็นห้องเช่าของแรงงานชาวเมียนมาที่ทำงานในตลาดยิ่งเจริญ แอดมินเพจสายไหมต้องรอดได้ไลฟ์สด ขณะมีเจ้าหน้าที่กู้ภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ้ง กำลังสวมชุด PPE เข้าไปเก็บศพของหญิงสาวชาวเมียนมารายหนึ่ง ซึ่งเสียชีวิตปริศนาในห้องพัก

แอดมินเพจสายไหมต้องรอด ระบุว่า เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยอาสากู้ภัยมูลนิธิเพชรเกษมได้รับแจ้งให้เข้ามาช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีอาการโคม่า ในอาคารที่เกิดเหตุ ก่อนจะนำไปส่งตรวจที่โรงพยาบาลภูมิพล ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ให้ยากับผู้ป่วยกลับมาทานที่บ้าน แต่ไม่ได้ตรวจหาเชื้อโควิด 19 ให้ แต่อาสากู้ภัยที่นำตัวผู้ป่วยส่งโรงพยาบาล แจ้งว่าผู้ป่วยมีอาการบ่งชี้ว่าอาจจะติดโควิด เพราะมีอาการไข้ขึ้นสูง เจ็บคอ ไอ มีอาการท้องเสีย สุดท้ายก็มาเสียชีวิตที่ห้องเช่า

 

ทั้งนี้ได้มีการสอบถามเจ้าหน้าอาสากู้ภัยปอเต็กตึ้ง ถึงสถานการณ์การระบาดของโควิด 19 ในขณะนี้ ได้รับคำตอบว่า สถานการณ์น่ากลัวมาก เพราะแต่ละวันไปรับผู้ป่วยที่เสียชีวิตจากโควิดที่อยู่ที่บ้านวันละหลายราย ส่วนสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากผู้ป่วยไม่สามารถไปหาโรงพยาบาลตรวจไม่ได้ เช่นเดียวกับเคสที่หญิงชาวเมียนมา เสียชีวิต

ตอนนี้โควิดสายพันธุ์เดลต้า ระบาดหนักมาก ตนได้เข้าไปช่วยเหลือผู้ป่วยโควิดจำนวนหลายรายจึงทำให้สังเกตว่าโควิดสายพันธุ์เดลต้าน่ากลัวมาก เพราะเคยเห็นผู้ป่วยท่านหนึ่งมีสีเขียมเข้มจะเข้าสู่สีส้ม แต่เพียงวันเดียวก็กระโดดเป็นสีแดงเข้มในระยะเวลาเพียงสองวัน ซึ่งผู้ป่วยในระดับสีแดงเข้ม ไม่สามารถหายใจได้ด้วยตัวเองจึงต้องพึ่งเครื่องอ็อกจิเจน คือถ้าถอดเครื่องช่วยหายใจก็จะเสียชีวิตทันที

จากการสัมผัสอาการผู้ป่วยตั้งแต่การระบาดครั้งแรก ต้องยอมรับว่ามีความแตกต่างกันมาก จากการแพร่ระบาดสายพันธุ์อู่ฮั่นพบว่าผู้ป่วยสีเขียวจะสีเขียวอยู่ประมาณ 3- 4 วัน ก่อนขยับเป็นสีเหลืองอีก 3-4 วันก่อนจะขยับเป็นสีแดง ส่วนสายพันธุ์เดลต้ามีความรุนแรงกว่าเดิมมาก คือพบผู้ป่วยสีเขียวแค่วันเดียวก็จะขยับเป็นสีเหลืองจัดวันเดียว และกระโดดเป็นสีแดง ใช้เวลาเพียง 2-3 วัน จึงทำให้มีจำนวนผู้ป่วยวิกฤตเพิ่มขึ้นอย่างรวด กระทั่งวันนี้ต้องยอมรับว่าเตียงวิกฤตเกือบทุกโรงพยาบาลใกล้จะรับไม่ไหวแล้ว

 

 

ที่มา สายไหมต้องรอด

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"บิ๊กโจ๊ก" เชื่อนายกฯ ถูกหลอกเซ็นสั่งย้าย มั่นใจเอาผิดพงส.คดีฟอกเงินเว็บพนัน
สหรัฐ คองเกรสผ่านร่างกม.แบน TikTok แล้ว
"พล.ต.อ.ธนา" เมิน "บิ๊กโจ๊ก" ยื่น ป.ป.ช.เอาผิด ยันทำทุกอย่างตรงไปตรงมา ตามขั้นตอนกม.
สหรัฐ คองเกรสผ่านร่างกม. 95 พันล้านเหรียญช่วยยูเครน-อิสราเอล
"เผ่าภูมิ" ย้ำยังไม่ได้สัญญาณจาก “นายกฯ” นั่งรมต. หลังลือสะพัดกรอกประวัติแล้ว
"มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์" มอบ "รถเข็นวีลแชร์" ให้สำนักงานจัดหางาน จว.นนทบุรี เติมกำลังใจผู้สูงอายุ-ผู้พิการ-ผู้ยากไร้
"รอง ผกก." แฝงตัวบวชเป็นพระ รวบมารศาสนา มั่วสุมยาในวัดดัง ขยายผลจับตัวเป้งอีก 2 ราย
ตร.ลงสำรวจโกดังเฟอร์นิเจอร์ หาเบาะแสเพิ่มปม "ฆ่าหั่นศพ" ย่านบางบัวทอง เร่งสอบคลี่คลายคดี
เพลิงไหม้บ่อขยะเทศบาลเมืองสระแก้ว
ทหารเมียนมา-กะเหรี่ยงสงบศึก หยุดยิงชั่วคราว หวั่นลุกลามกระทบเขตธุรกิจ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น