ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้เป็นวันที่ 3 ที่พล.อ.กประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กักตัวที่บ้านพักภายใน กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ร.1 รอ. ) หลังจากมีความเสี่ยงสัมผัสผู้ติดเชื้อโควิด 19 โดยในวันนี้ไม่มีวาระงานอย่างเป็นทางการ จึงติดตามสถานการณ์และเซ็นเอกสารที่สำคัญตามปกติ
ส่วนบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ยังเดินทางเข้าทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลตามปกติ เช่นเดียวกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ยังคงเดินทางมาเป็นประธานการประชุม คณะกรรมการโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ครั้งที่ 1/2564 ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เร้นซ์ ที่ตึกบัญชาการทำเนียบรัฐบาล ขณะที่มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฎิบัติงานทำเนียบรัฐบาล ประตู 5 ติดเชื้อโควิด 19 ทำให้ต้องกักตัวและเข้ารับการรักษา
ล่าสุด พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ดำเนินการกักตัวเองเช่นเดียวกันกับ นายกรัฐมนตรี หลังจากที่ไปร่วมงานเปิดโครงการ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ที่ จ.ภูเก็ตเมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา แม้ล่าสุดผลการตรวจเชื้อโควิด 19 จะเป็นลบ แต่ก็จะขอกักตัวเป็นเวลา 14 วัน และเตรียมที่ตรวจเชื้ออีกครั้งเมื่อกักตัวครบ 7 วัน
รวมถึงนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ออกมามาระบุว่า แม้ผลการตรวจเชื้อจะออกมาเป็นลบ ทั้ง สองครั้ง แต่เพื่อความสบายใจของทุกคน จึงต้องกักตัว ทั้งนี้ส่วนตัวเห็นใจนายกรัฐมนตรี เพราะเรื่องที่เข้ามาตอนนี้หนักทั้งนั้น ส่วนตัวพร้อมช่วยงานรัฐบาลอย่างเต็มที่
มีรายงานข่าวจาก ศบค.แจ้งว่า จากสถานการณ์ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจำนวนมากทุกวัน ส่งผลให้มีข่าวแพร่สะพัดเรื่องการล็อคดาวน์ประเทศ รวมถึงการประกาศเคอร์ฟิวส์ มาประกาศใช้อีกครั้ง ทำให้พ่อค้า แม่ค้าตื่นตระหนก ว่าจะต้องกลับไปสถานการณ์เดิมอีกครั้งคือ ต้องหยุดกิจการ ร้านค้าอีก
และเมื่อวานนี้ ทางพล.อ.ณัฐพล นาคพานิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผอ.ศปก.ศบค.ระบุว่า นายกฯ จะเรียกประชุม ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 หรือ ศบค.ชุดใหญ่ ในวันที่ 12 ก.ค.นี้ เพื่อประเมินสถานการณ์ และคาดว่าจะมีการพิจารณาเรื่องล็อคดาวน์ก่อนนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ในวันอังคารที่ 13 ก.ค. ทันที ทั้งนี้หากตัวเลขขึ้นหลักหมื่น ก็อาจจะประชุม ศบค.เร็วขึ้น