วันนี้ (1 ก.ค.) ที่ สภ.กำแพงแสน แถลงจับกุมคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงผู้อื่นจนถึงแก่ความตายได้ผู้ต้องหา 1 ราย คือ นายณัฐเศรษฐ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี อาชีพรับเหมาก่อสร้าง ชาวจ.นครปฐม
ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลนครปฐม ในข้อหา ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาไตร่ตรองไว้ก่อน ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยมีอาวุธปืนและใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป และเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพกพา
พร้อมของกลางเป็นรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 125 ไอ ทะเบียน 1กท3674 ราชบุรี เสื้อผ้าที่สวมใส่วันก่อเหตุ สร้อยคอทองคำ 1 เส้น พระหลวงปู่หลิวเลี่ยมทอง อาวุธปืนขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 8 นัด โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ เปิดเผยถึงพฤติการณ์ในการจับกุมครั้งนี้ ว่า เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. เวลา 20.30 น. เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง นายประดิษฐ์ อินทะนิน อายุ 47 ปี เสียชีวิตคาวงเหล้าขณะนั่งดื่มกินกับเพื่อนรวม 5 คนที่หน้าร้านขายของชำ ม.8 ต.หนองกระทุ่ม อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ซึ่งคดีดังกล่าวเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ คนร้ายไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ทางผู้บังคับบัญชาได้สั่งกำชับให้เร่งรัดสืบสวนจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว
หลังเกิดเหตุ ในทางสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า นายณัฐเศรษฐ หลบหนีไปกบดานอยู่ในพื้นที่ อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ตำรวจได้ไล่ล่าติดตาม กระทั่งพบตัวนายณัฐเศรษฐ พร้อมนำตัวมาสอบสวน โดย นายณัฐเศรษฐ ให้การรับว่า เป็นผู้ก่อเหตุยิงนายประดิษฐ์ถึงแก่ความตาย เนื่องจากมีผู้จ้างวาน โดยสาเหตุมาจากความขัดแย้งทางการเมืองท้องถิ่น
เนื่องจากนายประดิษฐ์ลงเล่นการเมืองท้องถิ่นตั้งแต่ ปี 2534-2542 ดำรงตำแหน่งเป็น สมาชิก อบต. หนองกระทุ่ม จากนั้น ปี 2557-2561 เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และครั้งนี้กำลังจะลงสมัครผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเชื่อว่ามีคนที่เสียผลประโยชน์จึงได้จ้างวานนายณัฐเศรษฐ มายิงเพื่อตัดคู่แข่ง
จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายณัฐเศรษฐไปตรวจยึดอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ และสร้อยคอทองคำพร้อมพระเลี่ยมทอง ที่ได้กระชากไปจากคอในวันเกิดเหตุ รวมถึงเสื้อผ้าที่สวมใส่ และรถกระบะ ที่ขับขี่ไปดูลาดเลาก่อนลงมือก่อเหตุ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮฮนด้า เวฟ 125 ไอ สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และทรัพย์สินอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับคดี
ส่วนผู้ใช้จ้างวาน และผู้ที่อยู่เบื้องหลัง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป