นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมสภาล่มเมื่อวานนี้ จะกระทบกับความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลหรือไม่ ว่า เหตุการณ์สภาล่มไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ซึ่งถ้านับกันในสมัยประชุมนี้เพิ่งเป็นครั้งแรก อีกทั้งยังมีเรื่องของสถานการณ์โควิดด้วย จึงต้องเข้าใจ เพราะการประชุมหลายอย่าง ก็ยังต้องใช้ช่องทางออนไลน์ แต่สภาประชุมแบบออนไลน์ไม่ได้ ดังนั้นหากมีคนกลัวก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร “เรื่องนี้ตนไม่ทราบสาเหตุเพราะกลัวโควิด หรือขัดแย้งกฎหมาย” อีกทั้งไม่ทราบเรื่อง กรณีที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ใช้บทลงโทษส.ส.ที่ไม่แสดงตนด้วยการติดชื่อสมาชิกเพื่อประจาน หลังสภาล่ม พร้อมไม่ขอแสดงความเห็น
ส่วนกรณีที่ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล ชี้แจงว่าเป็นแท็คติกที่ไม่เห็นด้วยกับการพิจารณาร่างพ.ร.บ.วัตถุอันตราย ที่คณะกรรมาธิการ กำลังพิจารณาอยู่ ซึ่งสมาชิกยังตกลงกันไม่ได้นั้น นายวิษณุ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเมื่อกฎหมายใดมีความขัดแย้ง เราเคยเห็นการประชุมสภาที่ใช้วิธีการวอล์คเอ้าท์ จนทำให้การประชุมล่ม หรือที่เคยทำกันมา คือ นั่งอยู่ และลุกขึ้นขอให้นับองค์ประชุม ก่อนจะเดินออกทั้งหมด เหลือไว้ 1 คนเพื่อเป็นพยาน หรืออยู่กันครบ แต่ไม่ขานชื่อ
“สิ่งเหล่านี้เป็นเทคนิคของสภา อย่าถือเป็นเรื่องตื่นเต้นอะไร แต่หากต่อไปเป็นเรื่องของกฎหมายสำคัญ อย่างนั้นถือเป็นเรื่องใหญ่ อันนี้อาจไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เพราะมาตรา 6 เถียงกันมาหลายวันแล้ว ผมยังนึกในใจเลยว่า ถ้าไม่มีเรื่องโควิดเกิดขึ้น ก็นั่งกันอยู่ ใครยอม ใครไม่ยอม คงมีคนวอล์คเอาท์อยู่ดี” นายวิษณุ กล่าว
เมื่อถามว่าร่างกฎหมายตกไป จะกระทบกับรัฐบาลหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า หากเป็นกฎหมายการเงินไม่ผ่านวาระ 1 ตามธรรมเนียม และมารยาทที่ถือกันมา รัฐบาลจะต้องแก้ไขอย่างใดอย่างหนึ่ง คือ ลาออก หรือยุบสภา เพราะถือว่าเหมือนรัฐสภาไม่ไว้วางใจรัฐบาล แต่ขณะนี้กฎหมายดังกล่าวผ่านวาระ 1 ไปแล้ว อยู่ในขั้นตอนของกรรมาธิการพิจารณากัน ซึ่งรัฐบาลยังไม่สามารถชี้แจงได้
นายวิษณุ กล่าวว่า สถานการณ์โควิด ยังไม่กระทบกระบวนการของสภา โดยเฉพาะเรื่องการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.2565 เพราะยังอีกนาน แต่ก็ยังมีกฎหมายที่สำคัญกว่านั้นเช่นกฎหมายที่ต้องประชุมร่วมรัฐสภา ซึ่งขณะนี้เมื่อพบคนติดเชื้อ ก็ต้องป้องกันไปอีกระยะ