No data was found

นายกสมาคมสื่อมวลชนจ.นครราชสีมา โร่แจ้งความหลังถูกปลอมนามบัตร เรียกรับเงินผู้ประกอบการ

กดติดตาม TOP NEWS

นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครราชสีมา โร่แจ้งความ หลังถูกมือดีปลอมนามบัตรเป็นผู้อำนวยการฝ่ายข่าว 6 สถานีพร้อมเขียนใบสนเท่ห์เรียกรับเงินผู้ประกอบการ เชื่อถูกกลั่นแกล้งหวังทำลายชื่อเสียง

วันนี้(24 มิถุนายน 2564) เวลา 09.40 น นายณัฐพงศ์ อรชร อายุ 59 ปี อาชีพผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดนครราชสีมา และเป็นนายกสมาคมผู้สื่อข่าวจังหวัดนครราชสีมาและนายกสมาคมสื่อสารมวลชน พร้อมด้วยเลขาสมาคม ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.รวีโรจน์  เจริญปลั่งกลาง พงส.สภ.โนนไทย อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา หลังจากได้ทราบข่าวจากเพื่อนร่วมอาชีพหลายจังหวัด ว่ามีการส่งนามบัตรปลอมเข้าตามสถานีช่องต่างๆจำนวนหลายช่อง ซึ่งภายเนื้อหาบัตรเขียนว่าเป็น ผู้อำนวยการฝ่ายข่าวสถานีโทรทัศน์ workpoint ช่อง 23 ,ผู้อำนวยการฝ่ายข่าว PPTV ช่อง 36 และผู้อำนวยการฝ่ายข่าวเนชั่นทีวี ช่อง 22 ผู้อำนวยการฝ่ายข่าว ช่อง 8 ผู้อำนวยการฝ่ายข่าว ช่องอมรินทร์ ทีวี และผู้อำนวยการฝ่ายข่าว ช่องวัน โดยบัตรดังกล่าวพิมพ์ชื่อ ชื่อนายณัฐพงษ์ (ศุภชัย) อรชร โดยกล่าวอ้างว่าเป็นฝ่ายข่าวของทั้ง 6 ช่อง ซึ่งบัตรดังกล่าวพิมพ์ที่อยู่บ้านเลขที่ 143 ม.12 ต.หลุ่งประดู่ อ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา พร้อมทั้งใส่เบอร์โทรศัพท์และอีเมล์ โดยพิมพ์ใต้บัตรว่านามบัตรและบัตรงานวันนักข่าว อีกทั้งยังมีข้อความสนเท่ห์ โจมตีใส่ร้ายป้ายสีว่า ไปข่มขู่ขอเงินผู้ประกอบการบริษัทรถทัวร์หลายแห่งในพื้นที่ เพื่อที่จะนำเงินมาซื้อพระหลวงพ่อคูณรุ่น 1 เลี่ยมทองฝังเพชร ให้กลับ ดร.อธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการคมนาคม มูลค่าหลักแสน เพื่อมอบให้ในวันนักข่าว 5 มีนาคมที่ผ่านมา แต่วันดังกล่าวรัฐมนตรีช่วยว่าการไม่ได้ทางมาเป็นประธานในงานโดยมอบหมายให้นายวิเชียร จันทรโณทัย อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานแทน ซึ่งเรื่องทั้งหมดไม่เป็นความจริง และก็ไม่รู้จักบริษัทรถทัวร์ดังกล่าวด้วย ทำให้หลายสถานีเกิดความเข้าใจผิดและส่งผลเสียต่อชื่อเสียงที่สะสมมานานกว่า 30 ปี  จึงได้แจ้งความกับผู้ที่กระทำผิดและผู้ที่แชร์ต่อในโซเชียลซึ่งทำให้เกิดความเสียหาย เป็นอย่างมาก 

จากการสอบถาม นายณัฐพงศ์ ผู้เสียหาย เล่าว่า ตนไม่ทราบว่าผู้ที่ทำนามบัตรปลอมและส่งไปตามสถานีต่างๆทำเพื่ออะไร เพราะตนก็ไม่เคยมีปัญหากับใคร ซึ่งตนก็ทำหน้าที่สื่อมวลชนอย่างตรงไปตรงมา ที่ผ่านมาก็เป็นสื่อกลางนำเสนอเรื่องราวนำเสนอข่าวออกหน้าทีวีมาโดยตลอด แต่ไม่รู้ว่าการทำงานไปขัดขาใครหรือไม่ จึงทำให้เกิดการกลั่นแกล้งแบบนี้ซึ่งนามบัตรปลอมและเอกการสนเทห์ ได้ส่งให้กับพนักงานสอบสวนแล้ว และจะดำเนินการแจ้งความกับผู้ที่แชร์เรื่องราวอันเป็นเท็จและติดตามตัวหาผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

พ.ต.ท.ธวัช บุญเคหา รอง.ผกก.หัวหน้าพงส.สภ.โนนไทย เปิดเผยว่า หลังจากได้รับแจ้งคดี ก็จะต้องมีการติดตามตัวผู้ที่กระทำความผิด และผู้ที่แชร์ข้อมูลต่อ มาสอบถามเพื่อตามหาผู้ที่กระทำความผิด เนื่องจากว่าทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง และผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

รัสเซีย วีโต้มติยูเอ็นต่ออายุการติดตามคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ
รู้จัก "ข้าวยีสต์แดง" 3 ชนิด อาหารเสริมญี่ปุ่น ทำป่วยไต-ดับ
ครอบครัวดีใจ จ่ายแสนผู้พบแม่ หายจากบ้านสัตหีบขี่จยย.ไกลกว่า 200 กม.สู่จังหวัดตราด
โซเชียลแชร์ สนั่น พบคุณตา อายุ กว่า 100 ปี น่าสงสาร เก็บขยะขายประทั้งชีวิต นอนข้างทาง
แม่ใจโหด นำทารกแรกเกิดทิ้งถังขยะ ทั้งที่ทารกยังมีชีวิต โชคดีส่งเสียงร้องชาวบ้านได้ยินช่วยชีวิตไว้ได้
"กรมโยธาฯ" รุกมาตรการเด็ดขาด ยกเลิกสัญญาจ้าง งานก่อสร้างล่าช้า ประชาชนเดือดร้อน
“ศปปส.” ยื่นหนังสือถึง UN หยุดแทรกแซง ม.112 ลั่นกฎหมายไทย คนไทยจัดการกันเองได้
"ภูมิธรรม" มั่นใจดันผู้ประกอบการเพิ่มแต้มต่อการค้า เปิดประตูสู่เอเชียใต้ หลังดัน FTA ไทย – ศรีลังกา ผ่านสภาสำเร็จ
รถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง ปรับแผนการเดินรถจากเหตุขัดข้อง ตามมาตรฐานความปลอดภัย พร้อมปรับลดค่าโดยสาร 20% จนกว่าจะเดินรถได้ตามปกติ
จีนใช้ ‘หุ่นยนต์สุนัข’ ตรวจสายเคเบิลในพื้นที่แคบ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น