นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีที่พรรคเล็กเตรียมยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยการเปลี่ยนระบบเลือกตั้งเป็นบัตร 2 ใบ อาจทำให้ขัดเจตนารมย์รัฐธรรมนูญ ว่า ตนไม่ทราบ ต้องถามพรรคเล็ก ว่าทำไมถึงเข้าใจว่าเป็นการกำจัดพรรคเล็ก คงเป็นอย่างที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่าระบบการเลือกตั้งในโลกมีหลายแบบ ไม่มีระบบใดที่จะออกแบบมาเพื่อที่จะตั้งใจกลั่นแกล้งใครทั้งนั้น เพราะเป็นการดีไซน์วิธีออกมาตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง ต่อข้อถาว่ารัฐธรรมนูญปี 60 ออกแบบมาเพื่อไม่ให้พรรคการเมืองใดใหญ่เกินไป และต้องการให้มีพรรคการเมืองจำนวนมากใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ก็พูดกันอย่างนั้น นินทากันอย่างนั้น แต่เจตนารมย์เขาอาจจะไม่ต้องการอย่างนั้นก็ได้
เมื่อถามว่าทางพรรคพลังประชารัฐต้องการให้แก้ไขเพื่อให้มีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ รวมทั้งพรรคที่จัดส่งบัญชีรายชื่อได้นั้นต้องส่งส.ส.เขตให้ได้ 100 เขต เหมือนเป็นการปิดกั้นพรรคการเมืองขนาดเล็กใช่หรือไม่ นายวิษณุ พยักหน้า และกล่าวว่า อาจจะมีส่วนก็ได้ แต่คงไม่ใช่เจตนาใหญ่ไปทั้งหมด เป็นเรื่องของความเคยชินที่เราชินแบบไหนมากกว่า สรุปว่าทุกอย่างมีเหตุผลในตัวของมันทั้งหมด อย่างรัฐธรรมนูญปี 60 ใช้ระบบเลือกตั้งที่ไม่ต้องการให้คะแนนทุกคะแนนเสียงตกน้ำ เป็นการเคารพรูปแบบนั้น เมื่อออกมาเป็นแบบนี้จึงเกิดปัญหาขึ้นมาอีก และในขณะเดียวกันหากพรรคเล็กมากเกินไปก็เป็นผลเสียอีกแบบหนึ่ง สรุปจึงมีทั้งข้อดีและข้อเสียด้วยกันทั้งนั้น แต่หากพรรคเล็กติดใจในประเด็นดังกล่าวก็สามารถยื่น ศาลรัฐธรรมนูญได้ แต่ก็ยอมรับว่ามีผลกระทบต่อพรรคเล็ก
เมื่อถามอีกว่า นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้า และฝ่ายกฎหมายของพรรค พปชร.ในฐานะเป็นผู้เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยอมรับว่าอาจต้องปรับเนื้อหาการแก้ไขมาตรา 144 และมาตรา 185 เนื่องจากถูกวิจารณ์ว่าทำให้กลไกการปราบปรามทุจริตของรัฐธรรมนูญอ่อนแอลง นายวิษณุ กล่าวว่า “ผมโมทนาสาธุด้วย ยืนยันว่าของเดิมออกแบบมาในหลักการที่ดี ถ้าคิดว่าแก้ไขแล้ว ชัดเจน รัดกุมมากขึ้นก็โอเค แต่ถ้าแก้แล้วมันแย่กว่าเดิมก็กรุณาอย่าแก้”