“สวนสยาม” สวนน้ำในหัวใจคนไทย ยอมเฉือนเนื้อ เพื่อเดินต่อ

เมื่อพูดถึง “สวนสยาม ทะเล –กรุงเทพฯ” เชื่อว่าไม่มีใครที่ไม่รู้จัก ปัจจุบัน ได้พัฒนามาเป็น สยามอะเมซิ่งพาร์ค  ซึ่งเป็นการต่อยอดจากความสำเร็จที่มีมานานกว่า 4 ทศวรรษ ของสวนสยาม  มาวันนี้เมื่อผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 คืบคลานเข้าสู่สวนน้ำ สวนสนุก เป็นเวลา 2 ปีครึ่ง ทางสวนสยาม จะก้าวผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปได้อย่างไร

นางนพกาญจน์ เหลืองอมรเลิศ  รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายการตลาดและการขาย บริษัท สยามพาร์คบางกอก จำกัด ได้เปิดเผยกับทาง TOPNEWS ผ่านรายการลึกจริงเศรษฐกิจ TOP BIZ INSIGHT ว่า เริ่มเห็นเค้าลางของโควิด-19 มาตั้งแต่ปลายปี 2562  เมื่อเริ่มเปิดปี 2563 ขึ้นมา ประจวบเหมาะกับเป็นช่วงใกล้ตรุษจีน ซึ่งปกติจะมีนักท่องเที่ยวชาวจีน ไม่ว่าจะเป็นจีนแผ่นดินใหญ่ ไต้หวัน ฮ่องกง ก็จะต้องบุ๊กทัวร์เข้ามาเยอะ ก็จะเห็นว่าบุ๊กกิ้งไม่มีเลย  ก่อนที่ทางไทยจะมีเหตุการณ์เกิดขึ้น เพราะฉะนั้น นับถึงวันนี้ได้รับผลกระทบมาเป็นเวลา 2 ปีครึ่ง เรียกว่า สาหัส แต่ต้องบอกว่าไม่ใช่เราที่เดียว ทุกที่ก็เจ็บหมด โดยเฉพาะในภาคธุรกิจท่องเที่ยว เพียงแต่ว่าคนไหนจะถูกผลกระทบในรูปแบบใด

วิกฤตครั้งนี้ ถึงขนาดจะต้องตัดขายที่ดินบางส่วนเพื่อรักษาสวนสยามให้คงอยู่?  นางนพกาญจน์ กล่าวว่า เรื่องนี้จริงครึ่ง ไม่จริงครึ่ง โดยที่ดินทั้งหมดมีประมาณ 300 ไร่ เข้าออกได้ 2 เส้นทาง คือ ทางฝั่งเสรีไทย และถนนรามอินทรา มีพื้นที่สวนน้ำ สวนสนุก รวมกัน 300 ไร่ รวมถึงมีค่ายพักแรม

บริษัทมีโครงการซึ่งตั้งใจมาเป็นเวลา 10 ปีแล้ว ว่า อยากทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ชื่อ บางกอกเวิลด์ ซึ่งบังเอิญเริ่มวางเสาเข็ม และเริ่มก่อสร้างไปประมาณปีกว่า ช่วงก่อนจะเกิดวิกฤติโควิด-19  และมีความตั้งใจว่าอยากจะเปิดโครงการนี้ให้ทัน พร้อมๆ กับการเปิดรถไฟฟ้าสายสีชมพู ซึ่งจะมาอยู่หน้าประตูสวนสยามพอดีในสิ้นปี 2565

เงินลงทุนส่วนหนึ่ง มาจากสถาบันการเงิน อีกส่วนหนึ่งมาจากทุนของครอบครัว แต่ว่าอีกส่วนหนึ่งตั้งใจว่า จะมาจาก cash flow ของการเปิดบริการสวนน้ำ สวนสนุก ของสวนสยาม แต่เมื่อเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19  ก็ส่งผลให้ cash flow ของสวนน้ำ สวนสนุก มีปัญหา

ขณะเดียวกัน สวนน้ำ สวนสนุก ก็มีภาระ ก็ปฏิเสธไม่ได้ จำเป็นจะต้องใช้เงินสดจำนวนหนึ่งเข้ามา จึงเป็นสาเหตุที่ต้องตัดขายที่ดินส่วนหนึ่ง ประมาณไม่ถึง 10% ของที่ดินที่มีทั้งหมด ซึ่งเป็นบริเวณด้านหลังสุดของสวน เป็นที่ตั้งของเครื่องเล่น 3 ชนิดด้วยกัน ซึ่ง ณ ตอนนี้เครื่องเล่นยังเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท แต่ที่ดินก็มีการเปลี่ยนสภาพเพื่อเป็นเงินสดเข้ามาหล่อเลี้ยงธุรกิจตอนนี้ และไปไฟแนนซ์โครงการใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นด้วย

“จริงๆ เหตุการณ์เกิดขึ้นจากทั่วโลก และผู้ประกอบการเองก็มีความจำเป็นที่จะต้องใช้กำลังของตัวเองให้เต็มที่ในการที่จะประครองตรงนี้ไปให้ได้ และพร้อมที่จะก้าวเมื่อเหตุการณ์คลี่คลายลง”

อย่างไรก็ตาม ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ทางภาคธุรกิจเอกชน เราก็มองหาความชัดเจนกับทางรัฐบาล รวมถึงความช่วยเหลือบางส่วนที่รัฐบาลน่าจะมีจุนเจือให้กับผู้ประกอบการ รวมถึงประชาชนทั่วไปด้วย

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงความเห็นเกี่ยวกับการประกาศ โรดแมป  “ประเทศไทยต้องเปิดประเทศ ภายใน 120 วัน” ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นางนพกาญจน์ มองว่าสิ่งนี้ มันเป็นสิ่งที่ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายผู้ประกอบการ หรือแม้แต่ประชาชน ก็ต้องการได้ยินจากรัฐบาล อาจจะไม่ต้อง 120 วันก็ได้ แต่อยากเห็นแผนที่ชัดเจน ว่าเรามีเป้าหมายกันอย่างไร เราจะเดินไปทิศทางแบบไหน  เราเกิดอุปสรรคอะไรบ้าง เพื่อเราจะได้เข้าใจสถานการณ์ให้เหมือนๆ กัน และเป็นความจริงว่า ตอนนี้เกิดอะไรขึ้น  ทำให้คาดการณ์ได้ง่ายขึ้น เพราะฉะนั้น เป็นนิมิตหมายอันดี ที่มีสิ่งเหล่านี้ออกมา

เพียงแต่ 120 วัน โดยส่วนตัวมองว่า ท้าทายพอสมควร เพราะประกอบไปด้วยปัจจัยหลายอย่าง กว่าจะไปถึงเป้าตรงนั้นได้ ก็คงจะต้องค่อยๆ ดูกันไป

เมื่อถามถึงความพร้อม ความพร้อมประกอบด้วยหลายสิ่ง เป็นสิ่งที่ทางบริษัทคุยกันตลอดว่า วันนี้แม้จะถูกปิดบริการชั่วคราว แต่สิ่งที่เราไม่หยุดทำ คือการพัฒนาภายในของเรา พัฒนาพื้นที่ การให้บริการ พนักงาน ตอนนี้เจ้าหน้าที่ของบริษัท ฉีดวัคซีนเข็มแรกไปประมาณ 80% เพื่อให้ความมั่นใจทั้งทางฝั่งผู้ให้บริการเอง และลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการ

รวมถึงมาตรการต่างๆ ในฐานะที่เป็นสถานประกอบการ ต้องมีความรับผิดชอบอย่างไร ในความคาดหวังของลูกค้าที่ไว้ใจมาใช้บริการ ให้เค้าได้ความสนุกด้วย ความปลอดภัยด้วย ณ วันนี้คงไม่ใช่ความทันสมัยของเครื่องและการบริการดีเลิศอย่างเดียว แต่มี new normal หลายสิ่งที่เกิดขึ้น

นางนพกาญจน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า สวนน้ำ สวนสนุก พร้อมเปิดแน่นอน ขณะที่บางกอกเวิลด์ อาจเปิดให้บริการครบถ้วนในปี 2565  ทั้งนี้ ได้เตรียมพร้อมอยู่เสมอ รอเพียงประกาศของกรุงเทพมหานคร(กทม.) เท่านั้นว่าจะไฟเขียวเมื่อไหร่ จะได้กลับมามีความสุขด้วยกันอีกครั้งหนึ่ง พร้อมเป็นกำลังใจให้กับทุกภาคธุรกิจ และทุกคนด้วย