กรณียายอายุ 94 ปีชาวสุโขทัยและน้องๆอีก 3 คนถูกเจ้าหนี้ฟ้องขับไล่ที่ เนื่องจากหลานชายนำที่ดินไปค้ำประกันเงินกู้เพื่อไปทำงานประเทศไต้หวันนั้น
ล่าสุดศาล จ.สุโขทัย ได้ไกล่เกลี่ยให้ยายทั้ง 4 และ ครอบครัวได้พักอาศัยอยู่ในบ้านเพิ่มเติมไปอีก 30 วัน โดยหลังจากเมื่อวานนี้(17มิ.ย.64) นายลวง อนุเคราะห์ บุตรชายของนางโปรย อนุเคราะห์ พร้อมด้วยยาย ตะล่อม ทิมแย้ม และ นายสมศักดิ์ โตจริง พร้อม ทนายความได้เดินทางไปยังศาล จ.สุโขทัย เพื่อยื่นคำร้องต่อศาลขอขยายระยะเวลาให้ยายทั้ง 4 และ ครอบครัวได้พักอาศัยอยู่ในบ้านเพิ่มเติมไปอีก 60 วันนั้น ศาลได้ไกล่เกลี่ยพูดคุยกันทั้งสองฝ่ายทั้งฝ่ายโจทก์และฝ่ายจำเลยโดยที่โจทก์ก็ยินดีที่จะให้จำเลยขยายระยะเวลาออกไปได้ 30 วัน เพื่อที่จะได้ขนย้ายทรัพย์สินออกจากที่พิพาท ซึ่งจะครบกำหนดในเวลา 09.00 น. ของวันที่ 16 กรกฏาคม 2564 ที่จะถึงนี้ โดยจำเลยก็มีหน้าที่จะต้องมาแถลงให้ศาลทราบเมื่อถึงเวลานั้นว่า ได้ขนย้ายทรัพย์สินออกจากที่พิพาทเรียบร้อยแล้ว นอกจากนั้นการพูดคุยเจรจาทางโจทก์ยังได้แจ้งว่า ไม่ประสงค์จะขายทรัพย์ซึ่งลูกหนี้ก็ได้เข้าใจในเรื่องนี้ซึ่งก็ต้องหาพื้นที่ใหม่ที่จะต้องออกไปอยู่พักอาศัยตามระยะเวลาที่ได้ขยายภายใน 30 วันตามที่ศาลให้ความกรุณาเพื่อที่จะได้ขนย้ายทรัพย์สินออกจากที่พิพาท
และหลังจากที่ นายลวง ยายตะล่อม และ นายสมศักดิ์ ได้เดินทางกลับมาถึงที่พักและแจ้งข่าวให้กับญาติๆทราบทางศาลได้ขยายระยะเวลาออกไปได้ 30 วัน แต่ทางโจทก์ไม่ประสงค์จะขายทรัพย์ให้ ทำให้ยายศรีนวล ทิมแย้ม ถึงกับเป็นลม เนื่องจากมีอาการเครียดมาหลายวัน และยังคงเสียใจที่ทางโจทก์ไม่ยอมขายบ้านและที่ดินคืนให้พวกตน และจะต้องออกจากบ้านที่เคยอยู่มานานตั้งแต่สาวจนตอนนี้ก็วัยชราแล้ว อย่างไรก็ตามทุกคนในครอบครัวยังคงไม่สิ้นหวัง โดยหวังว่าในอีก 30 วันข้างหน้านี้จะมีผู้ใจบุญมาช่วยไกล่เกลี่ย และหวังว่าโจทก์จะใจอ่อนเมตตาสงสารครอบครัวของพวกตนยอมขายที่และบ้านคืนให้กับพวกตน
ขณะที่ยายโปรยวัย 94 ปีซึ่งเป็นพี่สาวคนโตก็ได้บอกความรู้สึกของตนเองว่า ยายก็ดีใจที่ได้อยู่ต่อแต่ก็อยากได้บ้านได้ที่ดินนี้คืนได้อยู่ต่อไป หากให้ไปอยู่ที่อื่นก็รู้สึกไม่สบายใจมันเศร้าเสียใจตลอดเวลาที่นึกถึง ด้านนายลวง ลูกชายยายโปรยหลานชายของ 3 ยาย กล่าวว่า ศาลขยายระยะเวลาให้ 30 วัน แต่ก็ต้องหาทางขยับขยายหาที่อยู่ใหม่ เนื่องจากเจ้าหนี้ไม่ยอมขายคืนให้ อาจหาซื้อที่และสร้างบ้านหลังเล็กๆให้คนแก่ได้อยู่อาศัยกัน นายลวง ยังได้กล่าวขอบคุณคนไทยทุกคนที่ได้ช่วยเหลือครอบครัวในการบริจาคเงิน ซึ่งพบว่า ขณะนี้มียอดเงินบริจาคช่วยเหลือจากผู้ใจบุญทั่วประเทศเป็นจำนวนเงินมากว่า 1ล้าน5แสนบาท
