หลังจากที่ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวภายหลังการประชุมหารือเพื่อซักซ้อมทำความเข้าใจแก่เจ้าหน้าที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครเขตพื้นที่ 1-12 เพื่อกำหนดแนวทางในการฉีดวัคซีนโควิด-19 สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จากกรณีที่สำนักงานประกันสังคมได้ประกาศเลื่อนการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 45 ศูนย์ออกไป ซึ่งในเรื่องนี้ท่านรองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มีความเป็นห่วงผู้ประกันตนและเข้าใจดีว่าผู้ประกันตนประสงค์อยากจะฉีดวัคซีนโดยเร็ว จึงได้สั่งการให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานปรับปรุงจุดบกพร่องทั้ง 2 ประการอย่างเร่งด่วน
ทั้งกรณีสถานที่บางแห่งที่ไม่เอื้ออำนวย เนื่องจากไม่มีแอร์ อากาศร้อน จะยกเลิกสถานที่ดังกล่าวโดยจะยุบรวมมาอยู่ในสถานที่ที่มีความพร้อมและมีแอร์คอนดิชั่น ส่วนกรณีเรื่องข้อมูลของผู้ประกันตนที่ฝ่ายบุคคลของสถานประกอบการส่งมาให้เกิดความสับสนไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงจากเหตุผลหลายประการ อาทิ ลงทะเบียนซ้ำซ้อนหลายแห่ง การไปฉีดวัคซีนจากที่อื่นมาก่อนแล้ว ผู้ประกันตนไม่พร้อมมาฉีดตามวัน เวลา ที่กำหนด แต่ฝ่ายบุคคลไม่ได้แจ้งกลับมา หรือกรณีที่ผู้ประกันตนมีสภาพร่างกายที่ไม่พร้อมจะฉีด เป็นต้น ทั้งนี้ สำนักงานประกันสังคมได้ประสานไปยังสถานประกอบการต่าง ๆ เพื่อเร่งดำเนินการปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้ได้ข้อมูลของผู้ประกันตนที่ประสงค์จะฉีดวัคซีนอย่างแท้จริง หากว่าสถานประกอบการใดยังไม่พร้อมก็จะให้รอไปก่อน เราจะดำเนินการฉีดให้สถานประกอบการที่มีความพร้อมไปก่อน โดยจะเริ่มดำเนินการฉีดอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 14 มิถุนายนนี้
ล่าสุด ทีมข่าวท็อปนิวส์ ได้ตรวจสอบกับ แหล่งข่าว จากกระทรวงแรงงานว่า หน่วยฉีดที่ยังไม่มีสภาพที่พร้อมในการจัดการฉีดวัคซีนมีจำนวน 9 แห่งคือ
1.มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (สนามฟุตบอล) ดำเนินการโดย รพ.มิชชั่น
2. เซ็นทรัลพระราม 9 (ขอเปลี่ยนสถานที่เนื่องจากอากาศร้อน) ดำเนินการโดย รพ.จุฬารัตน์ 3 อินเตอร์
3.โรงแรมรามาด้า เจ้าพระยาปาร์ค รัชดาภิเษก (ขอเปลี่ยนเนื่องจากที่แคบ) ดำเนินการโดยรพ.จุฬารัตน์ 3 อินเตอร์
4. ห้างโชว์ดีซี (สถานที่แสงไม่พอ พยาบาลเวียนหัว) ดำเนินการโดย รพ.จุฬารัตน์3 อินเตอร์
5.ตลาดเรนโบว์ (ขอเปลี่ยนเนื่องจากอากาศร้อน) ดำเนินการโดย รพ.จุฬารัตน์ 9 แอร์พร์อต
6.ลานสแควร์ C&D หน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์(ขอเปลี่ยนสถานที่เนื่องจากร้อนมาก) ดำเนินการโดย รพ.จุฬารัตน์11 อินเตอร์
7.ศูนย์กีฬา บางขุนเทียน ดำเนินการโดย รพ.PMG
8.นิคมอุตสาหกรรมอัญธานี เจมโมโปลิส(ขอเปลี่ยนสถานที่เนื่องจากร้อนมาก) ดำเนินการโดย รพ.จุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต
9. ศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ ดำเนินการโดย รพ.วิภาราม
ซึ่งผู้บริหารจุดฉีดทั้ง 9 แห่งนั้น ได้ประสานงานมาที่กระทรวงแรงงานเพื่อขอเวลาในการปรับปรุง ปรับเปลี่ยนสถานที่ฉีดประมาณ 1 สัปดาห์เพื่อจะได้กลับมาให้บริการฉีดวัคซีนเพื่ออำนวยความสะดวกกับผู้ประกันตนได้ แต่ถ้าหากไม่พร้อมในการปรับแก้ไข ทางกระทรวงก็จะหาพื้นที่ใหม่ ใกล้เคียงจุดเดิมที่มีความพร้อมให้เป็นจุดฉีดแทน ส่วนที่ในโลกออนไลน์ สอบถามว่า ทำไมดำเนินการกระจายในหลายจุดพร้อมกันทั้งที่บางแห่งก็ไม่พร้อม แหล่งข่าวรายเดิมแจ้งว่า ด้วยผู้ประกันตนตามม.33 มีอยู่เป็นจำนวนมาก การที่จะหาพื้นที่ฉีดในกทม. ก็เป็นเรื่องยากเพราะต้องมีสถานที่กว้างขวางพร้อม และเจ้าของสถานที่ต้องอำนวยความสะดวก ในส่วนพื้นที่ต่างๆก็รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองหมด เมื่อมีหน่วยงานแจ้งมา ก็เป็นเรื่องที่ดี ส่วนที่ยังไม่พร้อมกับปรับแก้ไขกันไป เพื่อเป้าหมายในการบริการประชาชน ให้ได้ฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้ได้เร็วที่สุด เพื่อสังคมไทยจะได้กลับมาเดินหน้าได้ตามวิถีนิวนอร์มอล ให้เร็วที่สุด
