วันที่ 13 มิถุนายน 2564 นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษาระดับกระทรวง รก.11 และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า…
“เน้นย้ำอีกครั้ง การตรวจหาภูมิต้านทานหลังฉีดวัคซีน ไม่มีความจำเป็น” …ครับ
1) คำถามเรื่อง การตรวจหาภูมิต้านทานหลังฉีดวัคซีน มีเข้ามามากมายจากพี่น้องประชาชน และจากการโฆษณาการตรวจหาภูมิต้านทานหลังฉีดวัคซีน
กระทรวงสาธารณสุข ขอเรียนว่า ผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องตรวจหาภูมิต้านทาน
- การตรวจหาภูมิต้านทาน ในแต่ละห้องปฏิบัติการ น้ำยาที่ใช้ตรวจ หลากหลายชนิดกันมาก ยังไม่มีมาตรฐานกลาง
- พบว่า หน่วยที่ใช้วัดก็แตกต่างกัน เช่น AU (Arbitrary Unit) ไม่มีมาตรฐานกลางขององค์การอนามัยโลกที่เข้ามาปรับ หน่วยเป็นเปอร์เซ็นต์ก็มี เป็นตัวเลขการทำให้เจือจางก็มี เช่น 1:20, 1:40, 1:80…. และยังมีการใช้วิธีการตรวจแบบรวดเร็วอีก โดยการหยดเลือดแล้วดูแถบสี ซึ่งความถูกต้องต่ำมาก
- การแปลผลจะมีการสับสนเป็นอย่างยิ่ง ถ้าถือแค่ว่าตรวจพบหรือไม่พบ
– พบว่าเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ตรวจพบ ถ้าทำวิธีที่ไว แล้วเมื่อพบก็บอกไม่ได้ว่าระดับเท่าไหร่ที่จะป้องกันโรคได้
- ผลการเปรียบเทียบต่างห้องปฏิบัติการ ต่างวิธีจะเห็นว่าตัวเลขแตกต่างกันมาก ทำให้เกิดการสับสนมากในขณะนี้
2) ที่สำคัญที่สุด เมื่อตรวจแล้ว ก็ทำอะไรเพิ่มเติมไม่ได้
- ไม่ได้ใช้ตัวเลขดังกล่าวมาตัดสินใจ ในการป้องกันหรือการให้วัคซีนเพิ่ม
– เพียงแต่สร้างความสบายใจหรือไม่
3) การตรวจฯ ขอให้อยู่ในงานวิจัยเท่านั้น เพราะผู้ที่ทำวิจัยจะมีความรู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ และมีวัตถุประสงค์ที่จะตรวจวัดเพื่ออะไร
สรุป ผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปตรวจหาภูมิต้านทาน ครับ
นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ
ที่ปรึกษาระดับกระทรวง รก.11
และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข
https://www.facebook.com/100069005689508/posts/111536964489826/?d=n
ขอบคุณข้อมูล กระทรวงสาธารณสุข และ ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ