เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.- นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงการเปิดประชุมรัฐสภา เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราว่า เบื้องต้นได้ข้อตกลงร่วมกันระหว่างส.ส.และส.ว.ว่า จะเปิดประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 22-23 มิ.ย. เพื่อพิจารณาญัตติแก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา ขณะนี้มีแค่ญัตติของพรรคพลังประชารัฐเพียงญัตติเดียว โดยนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อที่เสนอเข้ามา ส่วนญัตติแก้รัฐธรรมนูญรายมาตราของพรรคการเมืองอื่นๆ ยังไม่มีเสนอเข้ามา แต่ทราบว่าสัปดาห์หน้าพรรคเพื่อไทยจะยื่นญัตติแก้รัฐธรรมนูญรายมาตราเข้ามา ก็จะนำเข้ามาพิจารณาบรรจุในวาระไปพร้อมกับญัตติพรรคพลังประชารัฐในการประชุมรัฐสภาวันที่ 22-23 มิ.ย. รวมถึงพรรคอื่นๆ ถ้ายื่นญัตติแก้รัฐธรรมนูญเข้ามาจะนำมาร่วมพิจารณาไปในคราวเดียวกัน
นายวิรัช กล่าวต่อว่า ญัตติแก้รัฐธรรมนูญรายมาตราของนายไพบูลย์มีหลักการสำคัญคือ การกลับไปใช้บัตรเลือกตั้งสองใบ แต่ไม่มีเรื่องการตัดอำนาจส.ว.ในการโหวตนายกรัฐมนตรี ในส่วนพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ หากจะยื่นแก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา ที่ต้องใช้เสียงส.ส.สนับสนุน 1 ใน 5 หรือ 98 คน แต่ถ้ามีเสียงไม่ครบ พรรคพลังประชารัฐยินดีช่วยเติมชื่อให้ครบตามจำนวน แต่เนื้อหาที่แก้ไขต้องอยู่ในหลักการหรือประเด็นเดียวกับของพรรคพลังประชารัฐ ไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับการลดหรือตัดอำนาจส.ว.ในการโหวตเลือกนายกฯ ถ้ามีเนื้อหาตัดอำนาจส.ว. จะไม่ร่วมลงชื่อให้ มองว่าอำนาจส.ว.ไม่ควรเข้าไปยุ่ง จะได้สะดวกไม่ยุ่งยากในการแก้ไข ถ้าไปตัดแขนขาส.ว. ใครจะมาโหวตให้ เพราะการรับหลักการวาะแรก ต้องใช้เสียงส.ว. 1 ใน 3 หรือ 83 เสียง เห็นชอบด้วย
นายวิรัช กล่าวอีกว่า หากญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราของพรรคพลังประชารัฐ ได้รับความเห็นชอบวาระรับหลักการจากรัฐสภา จะเข้าสู่ขั้นตอนตั้งกมธ.มาพิจารณาวาระสอง คาดว่าใช้เวลาไม่นานประชุม 4-5 ครั้ง น่าจะได้ข้อสรุป เพราะเป็นการแก้แค่รายมาตรา คาดว่าประมาณ 1 เดือนก็พิจารณาเสร็จ และนำเข้าสู่การโหวตวาระสามได้ในเดือนส.ค. อาจจะพิจารณาเสร็จก่อนร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 ด้วยซ้ำ