วันที่ 11 มิถุนายน – ที่รัฐสภา นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย พบ 7 ส.ส.ไม่ลงคะแนน พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ว่า หลายท่านมีการแจ้งล่วงหน้ากับทางพรรคเพื่อไทยว่าติดภารกิจ และเหตุผลหลายท่านก็ฟังขึ้น เช่น ลาไปพบแพทย์ ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า พรรคเพื่อไทย อาจถูกดูด ส.ส.นั้น นายประเสริฐกล่าวว่า รับรองว่าการพบ ส.ส. ไม่ลงคะแนนในการโหวต พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้าน ไม่มีความเกี่ยวข้อง เพียงแต่ว่าหลายท่านติดภารกิจ
ผู้สื่อถามว่ากรณี นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย ที่ออกมาเปิดเผยว่าได้ขอเวลาทางพรรค 1 ชั่วโมงในการอภิปราย พ.ร.ก. กู้เงิน 5 แสนล้าน แต่พรรคยืนยันว่าให้เวลาแค่ 30 นาทีถือว่าเป็นความขัดแย้งภายในพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเปิดกว้างให้สมาชิกทุกคนได้อภิปรายอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้ ได้เวลาค่อนข้างจำกัด และมีการกำหนดเวลาให้สมาชิกภายในพรรคอภิปรายได้ไม่เกิน 10 นาที ตนได้บอกกับนายศรัณย์วุฒิ แล้วว่าหากจะใช้เวลาตามที่ระบุมา ขอให้เป็นคราวหน้า ซึ่งทางนายศรัณย์วุฒิ ก็เข้าใจดี ยืนยันว่าไม่ความขัดแย้งอย่างแน่นอน
ส่วนกระแสข่าวการดูด ส.ส. ที่ทางพรรคพลังประชารัฐจะจัดประชุมพรรค ที่จังหวัดขอนแก่น อาจเป็นการดูดฐานเสียง นายประเสริฐกล่าวว่า เป็นเรื่องปกติ ที่ช่วงนี้พรรคการเมืองจะต้องมีการประชุมสามัญประจำปีอยู่แล้ว ซึ่งความจริงแต่ละพรรคต้องเริ่มจัดประชุมในเดือนเมษายน แต่เนื่องด้วยสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 แต่ละพรรคจึงเลื่อนออกไป และการไปประชุมตามภาคต่างๆ เป็นเรื่องปกติ ส่วนตัวไม่ได้กังวลเรื่องการดูด ส.ส.แต่อย่างใด เพราะได้มีการทำความเข้าใจกับสมาชิกภายในพรรคในเรื่องของการอยู่ร่วมกัน เรื่องอุดมการณ์ เพราะฉะนั้นยังมั่นใจว่าสมาชิกทุกคนภายในพรรคยังอยู่กับพรรคเพื่อไทย และ เร็วๆ นี้พรรคเพื่อไทยก็จะประชุมใหญ่เช่นกัน และจะมีการปรับโครงสร้างของพรรคเพื่อไทยเล็กน้อย
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับไทม์ไลน์การทำงานใน 1 ปีนั้น อาจจะมีการยุบสภาในช่วงกลางปีหน้าหรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา ตนก็คิดว่ายังไม่แน่นอนเพราะอาจจะเป็นอารมณ์ในช่วงนั้นๆ ที่พูดมาเช่นนั้น อย่างเช่น เรื่องเลือกตั้งหากย้อนมาตั้งแต่ช่วงที่มีการปฏิวัติในปี 2557 ก็จะมีการเลือกตั้งในปีนั้นๆ ก็เลื่อนมาตลอดรวมถึงเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ทำไม่ได้สักที ซึ่งคิดว่าการให้สัมภาษณ์ก็เป็นเรื่องอารมณ์นายกฯ แต่ก็รับฟังเอาไว้
สำหรับเรื่องการเลือกตั้ง ยืนยันว่าทางพรรคเพื่อไทยมีความพร้อมและมั่นใจมาก โดยจะส่งผู้สมัครให้ครบทั้ง 350 เขต แต่จากการเลือกตั้งที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยส่งส.ส.ไม่ครบทุกเขต โดยส่ง 250 เขตเท่านั้น แต่ถ้ามีการแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่าน พรรคเพื่อไทยก็ยืนยันว่าจะส่งผู้สมัครทั้ง 400 เขตและมั่นใจว่าจะชนะการเลือกตั้งแน่นอน รวมทั้งมั่นใจว่าส.ส.ของพรรคทุกคนยังอยู่กับเราครบ เพราะพรรคเพื่อไทยเป็นสถาบันการเมืองที่มีความมั่นคง
ด้านนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ถ้าหากมีการยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้ง ต่อให้ไม่มีการแก้รัฐธรรมนูญและมีระบบเลือกตั้งเหมือนเดิม ก็มั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยจะได้จำนวนส.ส.ทั้งสองระบบมากกว่าเดิม
