เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 64 การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาพ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม วงเงินไม่เกิน 500,000 ล้านบาท
นางวทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อภิปราย ท้วงติงการบริหารงบประมาณเงินกู้ ของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความล่าช้า
“พ.รก. เงินกู้ 5 แสนล้านที่เรากำลังพิจารณาในสภาวันนี้ คงจะไม่เกิดขึ้น หรืออาจเกิดขึ้นในจำนวนที่น้อยกว่านี้ก็เป็นได้ หากการออก พรก. เงินกู้ 1 ล้านล้านครั้งที่ผ่านมาตั้งแต่เมื่อเดือนพฤษภาคม 2563 กระทรวงสาธารณสุขได้นำงบประมาณเงินกู้จำนวน 45,000 ล้านบาทที่เป็นเสมือนอาวุธในการต่อสู้กับโรคร้ายโควิด19 ไปใช้อย่างดีที่สุด บนแผนการทำงานเชิงรุก ไม่ประมาท มีแผนรองรับความเสี่ยงเพื่อปกป้องชีวิตคนไทย” นางวทันยา กล่าว
นางวทันยา กล่าวว่า ความจริงที่ว่าผ่านไป 1 ปีตั้งแต่ที่สภาผ่าน พรก.เงินกู้ 1 ล้านล้านเมื่อครั้งที่โควิดระบาดระลอกแรก ข้อมูลเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 64 กลับพบว่า กระทรวงสาธารณสุขทำแผนงานเพื่อรับมือกับวิกฤตโควิดเพียง 25,800 ล้าน และพบว่ามีการเบิกจ่ายจริงไปเพียง 7,000 ล้านบาทหรือคิดเป็น 15% ของวงเงินทั้งหมด
แต่ผ่านมาอีกเพียง 33 วัน คือเมื่อวานนี้ วันที่ 8 มิถุนายน วงเงินกู้ด้านสาธารณสุขกลับเหลือวงเงินทั้งสิ้นเพียง 236 ล้านบาท หลังเกิดโควิดระลอก 3 ภายในระยะเวลา 1 เดือน กลับมีโครงการที่นำเสนอเพื่อขอใช้เงินกู้สูงถึง 19,000 ล้านบาท
“ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพการทำงาน การเบิกจ่ายงบที่ล่าช้า แล้วมาเร่งเบิกจ่ายในภายหลังที่ปัญหาการแพร่ระบาดโควิด19 ลุกลามบานปลาย เป็นการทำงานบนความประมาท ที่นำมาซึ่งความเสียหายทั้งทางเศรษฐกิจและความเสียหายถึงชีวิตของประชาชนที่ไม่สามารถประเมินเป็นมูลค่าได้” นางวทันยา กล่าว