แคลวิน ชีเวอร์ส ผู้ช่วยผู้อำนวยการสอบสวนกลางสหรัฐ หรือ เอฟบีไอแถลงข่าวเมื่อวานนี้เผยว่าปฎิบัติการกวาดล้างสะท้านโลกครั้งนี้สามารถจับตัวสมาชิกแก๊งอาชญกรรมข้ามชาติได้มากกว่า 800 คน ยึดโคเคนกว่า 8 ตัน, ปืน 250 กระบอก และเงินสดหลายสกุล รวมทั้งเงินดิจิทัลมูลค่ากว่า 48 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ โดยปฎิบัติการดังกล่าวมีขึ้นในมากกว่า 12 ประเทศทั่วโลก ใช้ตำรวจสากลเข้าร่วมในปฎิบัติการราว 9 พันนายจาก 16 ประเทศ
ชีเวอร์สเผยถึงวิธีการของปฎิบัติการที่เอฟบีไอวางแผนร่วมกับตำรวจออสเตรเลียคือการวางกับดักอาชญากรด้วยการใช้โทรศัพท์ติดตั้งแอปพลิเคชัน อานอม (ANOM) ที่ลอบแจกจ่ายให้บรรดาอาชญากรทั้งหลายในมากกว่า 100 ประเทศ แอป ANOM ที่ติดตั้งในโทรศัพท์มือถือชนิดพิเศษราว 12,000 เครื่อง ที่เจ้าหน้าที่วางแผนส่งให้อาชญากรทั่วโลกใช้นั้น มีข้อความเข้ารหัสสำหรับให้พวกอาชญากรใช้ติดต่อสื่อสารกันด้วยความเข้าใจว่าเป็นความลับ แต่หารู้ไม่ว่าเจ้าหน้าที่สามารถเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของอาชญากรเหล่านี้ผ่านข้อความเหล่านี้ได้ด้วย ไม่ว่าการลับลอบค้ายาเสพติด, ฟอกเงิน หรือแม้แต่แผนฆาตกรรม
ฌอง-ฟีลิป เลอคูฟ รองผู้อำนวยการยูโรโพล กล่าวว่า ข้อมูลที่ได้จากอุปกรณ์เหล่านี้นำไปสู่ปฏิบัติการหลายร้อยปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ทั่วโลกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตั้งแต่นิวซีแลนด์, ออสเตรเลีย มาถึงยุโรป และสหรัฐ และได้ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง และถือเป็นปฎิบัติการกวาดล้างครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของโลก
ด้านตำรวจออสเตรเลียกล่าวว่า อุปกรณ์สื่อสารเข้ารหัสนี้ถูกส่งให้สายของเจ้าหน้าที่ในแก๊งมาเฟีย ซึ่งแนะนำให้กับนายฮากัน อัยยิค เจ้าพ่อยาเสพติด สัญชาติออสเตรเลีย วัย 42 ปี ก่อนที่อัยยิคจะแนะนำต่อให้กับสมาชิกแก๊งอาชญากรรมคนอื่นๆ จนถูกกับดักและถูกจับได้ในที่สุด ซึ่งตำรวจใช้เวลาในการติดตามความเคลื่่อนไหวนานเกือบ 3 ปีก่อนลงมือจับกุม
นายกรัฐมนตรีสกอต มอร์ริสัน ของออสเตรเลีย แถลงว่า ปฏิบัติการที่เขาเรียกว่า ปฏิบัติการไอร์ออนไซด์ (Ironside) นี้กระเทือนองค์กรอาชญากรรมอย่างหนักหน่วง ไม่เฉพาะในออสเตรเลียเท่านั้น แต่ยังสะเทือนไปถึงแก๊งอาชญากรรมทั่วโลกด้วย