นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย เปิดเผยกับ “TOPNEWS” ว่า เมื่อวันศุกร์(4 มิ.ย.) ได้เข้าพบนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.กระทรวงการคลัง เพื่อยื่นข้อเสนอให้พิจารณาช่วยเหลือให้ผู้ประกอบการร้านอาหารขนาดกลางและเล็กเป็นการเฉพาะให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนหรือมาตรการช่วยเหลือทางการเงินของรัฐได้อย่างทั่วถึงเพื่อให้ยังคงดำเนินกิจการต่อไปได้ ดังนี้
1. ออกมาตรการพักชำระ ต้น -ดอก ธนาคารและไฟแนนซ์ ประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี โดยรัฐบาลจ่ายดอกเบี้ยแก่ธนาคารแทนผู้ประกอบการ
2. วงเงินเดิมที่ธนาคารของรัฐยังคงมีเหลือ ขอให้ผ่อนปรนเงื่อนไขการขอกู้ต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ความเป็นจริงภายใต้วิกฤตโควิด-19 ให้เอื้อต่อการเข้าถึงผู้ประกอบการร้านอาหารขนาดกลางและเล็กทั้งที่เป็นนิติบุคคลและบุคคลธรรมดา โดยวัตถุประสงค์การกู้เพื่อ
2.1 ขอวงเงินกู้ให้ผู้ประกอบการร้านอาหารเพื่อนำไปเป็นค่าใช้จ่ายประจำของกิจการช่วง 6-12เดือนถัดจากนี้ โดยกำหนดอัตราดอกเบี้ยต่ำ ผ่อน 3-5ปี ใช้บสย.ค้ำประกันโดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์จำนอง
2.2 ให้ใช้ฐานการเสียภาษีตามแบบแสดงรายได้ ภงด.90 สำหรับผู้ประกอบการแบบบุคคล และภงด.50 สำหรับนิติบุคคลในการพิจารณาปล่อยกู้สินเชื้อดอกเบี้ยต่ำ 30% ของรายได้ในปี 2562 ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบภาษีอย่างถูกต้อง
3. ขอแบ่งวงเงินตามมาตรการพักทรัพย์พักหนี้ จำนวน 2 หมื่นล้านบาท ให้สิทธิกับผู้ประกอบการร้านอาหารที่มีสถานประกอบการเป็นของตัวเองซึ่งติดจำนองกับธนาคารได้แก้ปัญหาหนี้สินและเช่าทำธุรกิจต่อ 5 ปี ซึ่งร้านอาหารจะมีโอกาสฟื้นตัวเร็วกว่าธุรกิจประเภทอื่น
4. จัดตั้งกองทุนฟื้นฟูสนับสนุนกิจการร้านอาหาร เพื่อป้องกันการเกิดวิกฤตเช่นนี้ในอนาคตอีก โดยกองทุนนี้มีภาระกิจหลักคือการฟื้นฟู และสนับสนุนกิจการร้านอาหารให้ดำเนินกิจการต่อไปในสถานการณ์วิกฤตต่าง ๆ เช่น เป็นแหล่งเงินทุนสำรองค่าใช้จ่าย fix cost ต่างๆ เพื่อให้ร้านอาหารยังคงเปิดต่อไปได้ มีการจ้างงาน มีการใช้จ่ายเชื่อมโยงไปยังซัพพลายเชนต่างๆ ลดภาระของภาครัฐลงได้
ทั้งนี้ การยื่นข้อเสนอดังกล่าว เนื่องจากทราบว่า รัฐบาลมีซอฟท์โลนเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการอยู่ 2 ส่วนคือจาก ธ.ออมสิน 1 หมื่นล้านบาท และจาก SME Bank 2 โครงการคือ LEL และ extra cash ซึ่งปัจจุบันมีวงเงินเหลือ ประมาณ 3,000 ล้านบาท แต่ผู้ประกอบการร้านอาหารไม่สามารถเข้าถึงวงเงินสินเชื่อทั้ง 2 ส่วนนี้ได้ แม้ว่าในวันที่ 7-20 มิ.ย.นี้ กระทรวงพาณิชย์จะมีการทำ matching ระหว่างสถาบันการเงินกับผู้ประกอบการร้านอาหารเพื่อให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน แต่ด้วยเงื่อนไขข้อจำกัดของสถาบันการเงินก็เชื่อว่าจะเป็นอุปสรรคในการเข้าถึงอีกเช่นกัน
สำหรับปัญหาที่ผ่านมาของผู้ประกอบการร้านอาหารขนาดกลางและเล็กที่เข้าไม่ถึงมาตรการช่วยเหลือด้านการเงินของรัฐมาจากสาเหตุหลักๆ ดังนี้
1. ติดเครดิตบูโร หรือติดเงื่อนไขประวัติหนี้เสีย เช่นเข้าโครงการพักชำระหนี้สถาบันการเงินถือว่าประวัติเสีย
2. สเตทเม้นท์ไม่เข้าเงื่อนไขขอสินเชื่อ เนื่องจากบ้างร้านต้องหยุดกิจการทำให้การเดินบัญชีไม่มี
3. หลักทรัพย์ค้ำประกันไม่มีทำให้เข้าถึงเงินหลักล้านยาก(ซึ่งส่วนนี้มีบสย.ช่วยค้ำประกันตลอดที่ผ่านมา)
4. สถาบันการเงินมักจะพิจารณาลูกค้าตัวเองเป็นหลัก และเป็นลูกค้าชั้นดี ซึ่งมีศักยภาพในการประคับประคองกิจการอยู่แล้ว
นายกสมาคมภัตตาคารไทย กล่าวว่า ผลการหารือกับรมว.คลัง ยังไม่ออกมาชัดเจนว่าจะช่วยอะไร เท่าที่ทราบ เงินกู้ก้อนใหม่จากพ.ร.ก.เงินกู้ ก็จะเน้นมาช่วยภาคบริการกับท่องเที่ยว ก็เลยคิดว่า น่าจะมีเงินแล้วล่ะ ไม่ว่าจะเรื่องดอกเบี้ย เรื่องพักหนี้
อย่างไรก็ตาม พรุ่งนี้ (7 มิ.ย.) จะมีโอกาสพบกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ซึ่งมาตรวจเยี่ยมศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ เพราะนายกรัฐมนตรีรีเควสให้สมาคมภัตตาคารไทยมาฉีดวัคซีนในวันดังกล่าว ก็จะยื่นข้อเสนอข้างต้นให้กับนายกรัฐมนตรีเช่นกัน ซึ่งที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี ก็มีความเป็นห่วงร้านอาหารมาก สอบถามตลอด ว่าจะช่วยร้านอาหารยังไง