วันที่ 2 มิถุนายน 2564 เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา พันเอก สุวัฒน์ ทองใบ ผบ.ฉก.ร.25 กกล.เทพสตรี (ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี) ได้รับรายงานจากสายข่าวทหารมีรถยนต์กระบะตอนครึ่ง สีดำยี่ห้อ อีซูซุ ดีแมค ทะเบียน บฉ 1606 ระนอง บรรทุกแรงงานเถื่อนหลบหนีเข้าเมืองมาเต็มคันรถ และมีผ้าสเลนด์ปิดคลุมไว้ที่ท้ายกระบะ กำลังนำพาแรงงานทั้งหมดเข้าพื้นที่ชั้นใน โดยข้ามมาฝั่งประเทศเมียนมาด้วยเรือหางยาง จำนวน 2 ลำ มาขึ้นบริเวณปั๊มน้ำมันร้าง บ้านดอนสวะ ต.มะมุ อ.กระบุรี จ.ระนอง โดยมีรถยนต์คันดังกล่าว ซึ่งมีนาย สุทัศน์ ม่วงหีต ภูมิลำเนา ชาว ต.บางแก้ว อ.กระบุรี จ.ระนอง มารับตัวและกำลังมุ่งหน้าไปทาง อ.ละอุ่น จ.ระนอง เพื่อเข้าพื้นที่ชั้นใน จ.ชุมพร จึงรีบสั่งการให้ จุดตรวจทหาร ตามเส้นทางรอยต่อระหว่างจังหวัดระนอง กับจังหวัดชุมพร คือ จุดตรวจศิลาสลัก,จุดตรวจทุ่งตาพล และจุดตรวจในวง ให้ทำการสกัดรถยนต์ขนแรงงานต่างด้าว ทันที
ซึ่งต่อมา เมื่อเวลา 04.40 น. รถกระบะคันดังกล่าวได้ขับมุ่งหน้ามาเส้นทาง ต.บางแก้ว อ.ละอุ่น จ.ระนอง จ้าหน้าที่ที่ทหารได้ขับรถยนต์ทำการไล่ติดตามทันที ซึ่งเป็นเส้นทางลัดเลาะไปตามหุบเขาตามเส้นทางในภูมิประเทศ ผ่าน ม.5 ต.ละอุ่นเหนือ อ.ละอุ่น จ.ระนอง เพื่อข้ามแนวเทือกเขามุ่งหน้าไปยัง จ.ชุมพร แต่ทหารสามารถสกัดและควบคุมรถยนต์กระบะต้องสงสัยได้ บนยอดเขา ซึ่งเป็นทางลูกรังก่อนถึง โรงเรียนบ้านในหุบ ม.4 ต.เขาค่าย อ.สวี จ.ชุมพร
ทหารหน่วย ฉก.ร.25 กกล.เทพสตรี ได้ทำการตรวจสอบท้ายรถยนต์กระบะติดรั้วเหล็กด้านข้าง และเปิดผ้าคลุมออก พบว่ามีแรงงานชาวเมียนมา จำนวน 24 ราย นั่งเบียดอัดมากันเป็นจำนวนมาก ก่อนให้แรงงานชายที่สามารถพูดคุยภาษาไทยได้เรียกเพื่อนให้ลงจากรถยนต์ไปนั่งรวมกัน และเมื่อเปิดภายในห้องโดยสารด้านหน้ายังพบแรงงานหญิง นั่งอัดซ้อนกันมาแน่น อีก 9 ราย รวมแรงงานชาวเมียนมาทั้งหมด 33 ราย ส่วนคนขับนาย สุทัศน์ ม่วงหีต ได้ใช้ความมืดวิ่งหลบหนีเข้าป่าไปได้ แต่ก่อนวิ่งหลบหนีไปยังได้ทำร้ายแรงงานชายคนหนึ่งห้ามไม่ให้หลบหนี จึงถูกต่อยเข้าครึ่งปากครึ่งจมูก และทุบตัวระหว่างนั่งรถ จนได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลและเลือดไหลออกเต็มใบหน้า และเสื้อขาวแขนยาวที่สวมใส่สาเหตุขึ้นรถช้าในระหว่างกำลังจะออกเดินทางหลบหนี
จากการสอบสวนเบื้องต้น แรงงานทั้งหมด 33 ราย ส่วนใหญ่เป็นแรงงานที่เคยทำงานอยู่ในประเทศไทยมาก่อน มาจากเมืองย่างกุ้ง 18 ราย เมืองเม๊าะละมาย 13 ราย และเมืองทวาย 2 ราย เพื่อจะเดินทางลงไปทำงานที่ จังหวัดต่างๆทางใต้ เช่น จ.นครศรีธรรมราช,จ.สุราษฎร์ธานี,จ.ปัตตานี,จ.สงขลา โดยแรงงานชาวเมียนมา ทั้งหมดได้ถูกกระบวนการลักลอบส่งแรงงานข้ามชาติ ทั้งชาวเมียนมาและชาวไทย ส่งมาพักเพื่อรวบรวมคนที่ ที่บ้าน เอชันตะ ฝั่งตรงกันข้ามกับ อ.กระบุรี จ.ระนอง ได้ประมาณ 1 เดือน และเมื่อคืนที่ผ่านมา ได้เดินทางข้ามมาฝั่งประเทศไทย ด้วยเรือหางยาว จำนวน 2 ลำ มาแอบขึ้นบริเวณท่าเรือตามธรรมชาติ บ้านดอนสวะ ต.มะมุ อ.กระบุรี จ.ระนอง โดยมีนาย สุทัศน์ ม่วงหีต ขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าว มารอรับอยู่ เพื่อส่งเข้าไปยังพื้นที่จังหวัดชั้นใน แต่ถูกทหาร กกล.เทพสตรี สามารถสกัดกั้นไว้ได้ก่อน ซึ่งกระบวนการนี้ทำโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย โดยใช้พื้นที่รอยต่อชายแดน ตามช่องทางธรรมชาติ ของ อ.กระบุรี จ.ระนอง ยังเป็นพื้นที่ ที่ขบวนการลักลอบขนยางพาราผิดกฎหมาย และเมื่อเดือนที่ผ่านมา ยังปรากฏเริ่มมีการนำพาแรงงานข้ามชาติเข้ามาในประเทศไทยต่อเนื่อง ซึ่งทางทหารกองกำลังเทพสตรี มีผลงานจับกุมต่อเนื่องกันเป็นรายวัน
จนท.ทหารชุดจับกุม จึงได้ควบคุมตัวแรงงานทั้งหมด เข้าสู่การดำเนินการตามมาตรการป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยทำการตรวจวัดอุณหภูมิ และให้สวมหน้ากากอนามัย จากนั้นควบคุมตัวไปอยู่ระหว่างสอบสวนขยายผลผู้ที่ร่วมกระทำความผิด ที่ กองร้อย ร.2521 หน่วย ฉก.ร.25 กองกำลังเทพสตรี และจะดำเนินการส่งตัวเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
