ในคืนวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ผู้ถือคบเพลิงคนสุดท้าย 2 คนวิ่งขึ้นไปและวางคบไฟไว้ในหม้อใหญ่ของแท่นเกล็ดหิมะที่ประกอบด้วยสะเก็ดเล็กๆ ประมาณ 90 ชิ้น ที่มีชื่อของประเทศที่เข้าร่วมทั้งหมด
จาง อี้โหมว ผู้กำกับพิธีเปิดและปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนที่ปักกิ่งเมื่อปี 2008 และได้กลับมากำกับอีกครั้งกับโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 กล่าวว่า “ตัวของคบเพลิงเอง จะเป็นเปลวไฟ” ซึ่งหมายถึงการจุดไฟโอลิมปิก สัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่า การแข่งขันได้เริ่มขึ้นแล้ว
หากการจุดไฟโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 ยังใช้วิธีการเดียวกับเมื่อครั้งโอลิมปิกฤดูร้อนปี 2008 ปักกิ่งก็จะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จำนวนมากออกไป เนื่องจากต้องเปิดไฟนานกว่า 1 เดือน ตั้งแต่การเปิดโอลิมปิกฤดูหนาวไปจนถึงการปิดการแข่งขันพาราลิมปิกฤดูหนาว
ซึ่งหลังจากการเจรจาที่ยาวนานกับคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (หรือ IOC) แผนการใช้เปลวไฟขนาดเล็กก็ได้รับการอนุมัติในที่สุด ซึ่งวิธีนี้ ทำให้ปริมาณคาร์บอนที่ปล่อยออกมาทั้งหมด จะอยู่ที่ประมาณ 1 ใน 5 พันของปริมาณที่เคยเกิดขึ้นเมื่อโอลิมปิก 2008
จางได้กล่าวต่อว่า สิ่งนี้คือแนวคิดเรื่องคาร์บอนต่ำและการปกป้องสิ่งแวดล้อมอย่างชัดเจน ซึ่งถ้าหากต้องการทดลองเกี่ยวกับการปกป้องสิ่งแวดล้อมที่มีคาร์บอนต่ำ โอลิมปิกฤดูหนาวที่ปักกิ่งคือสิ่งที่อ้างอิงได้เป็นอย่างดี ซึ่งทีมผู้กำกับของพิธี ก็อธิบายเพิ่มเติมว่า การลดขนาดเปลวไฟ หรือการวางคบเพลิงให้ชัดเจนยิ่งขึ้น คือ ความก้าวหน้าในประวัติศาสตร์ของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก