พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว. กลาโหม ชี้แจง นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าฝ่ายค้านว่าในฐานะผู้นำรัฐบาลได้ฟังหัวหน้าฝ่ายค้านอภิปราย แล้ว ซึ่งหน่วยงานที่รับผิดชอบจะมีการชี้แจงในเรื่องนี้อีกครั้ง โดยมองว่าอาจมีความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน ในส่วนของการบริหารงบประมาณถ้ามองตัวเลขอย่างเดียวก็ดูเหมือนไม่เป็นธรรมไม่ตรงสถานการณ์อย่าลืมว่าเรามีเม็ดเงินต่างๆเพื่อจะรองรับเอาไว้แก้ปัญหาโควิดไว้ หลายส่วนด้วยกัน ทั้งงบประมาณประจำ และ เงินกู้ที่ใช้ไปในรูปช่วงแรกด้วย
งบประมาณในเรื่องนี้ คงไม่มีปัญหาในเรื่องวัคซีนก็เป็นไปตามลำดับตามขั้นตอนในการจัดหาแบบรัฐต่อรัฐนำเข้าตามงบประมาณที่ ปรากฏอยู่วันนี้ความต้องการวัคซีนของหลายๆประเทศจึงต้องมาดูเรื่องการบริหารจัดการจากบริษัทผู้ผลิตวัคซีนที่เรามีบริษัทเป็นของเรา ที่ถ่ายทอดการผลิตวัคซีนในประเทศไทย แต่ก็ต้องถูกควบคุมจากบริษัทใหญ่ ที่ควบคุมการผลิตทั้งหมดด้วย
นายกฯ ยืนยันว่ารัฐบาลมีแผนรับมืออย่างต่อเนื่องทั้งแผนหลักและแผนรองรวมถึงแผนฉุกเฉินในเรื่องวัคซีนและคาดว่าในระยะเวลาที่กำหนดไปแล้วไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องวัคซีนวัคซีนจัดหาด้วยรัฐและวัคซีนทางเลือก ที่ดำเนินการได้แล้วขณะนี้แต่ทั้งหมด ยังคงต้องนำเข้าผ่านช่องทางรัฐต่อรัฐโดยมีคณะกรรมการที่ดูแลในเรื่องนี้ มาอย่างต่อเนื่องไม่ใช่ว่าเพิ่งมาทำหรือเพิ่งจะอนุมัติ ก็ไม่ใช่
ในส่วนของงบประมาณกระทรวงกลาโหมโดยเมื่อไปดูให้ดี มีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับบุคลากร ค่าใช้จ่ายในภารกิจประจำ และการพัฒนากองทัพซึ่งมีงบประมาณที่ตั้งไว้ในจำนวนไม่มากนัก โดย 2 ปีที่ผ่านมาก็มีการปรับลดไปแล้ว จำนวนเป็นหมื่นล้านบาทในแต่ละปี และ วันนี้สิ่งที่เป็นข้อผูกพันที่ต้องดำเนินการต่อและมีความจำเป็นดำเนินการต่อในปี 2565
เมื่อมีการพาดพิงว่างบกลาโหมมากกว่างบกระทรวงสาธารณสุขนั้นไม่ใช่ข้อเท็จจริง ซึ่งงบประมาณของกระทรวงสาธารณสุขนั้นนอกจากงบประมาณของหน่วยงานไปแล้วยังมีงบประมาณของกองทุนภายใต้กระทรวงอีก 3 กองทุน คือ กองทุนสํานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กองทุนการแพทย์ฉุกเฉิน กองทุนภูมิปัญญา การแพทย์แผนไทย จำนวน 141,741 ล้านบาท งบประมาณของกระทรวงเองมี 151,94 0.47 ล้านบาท เมื่อรวมกันแล้วงบประมาณสาธารณสุขจะมีทั้งสิ้น 295,681 ล้านบาท และเมื่อเทียบกับปี 64 ลดลง 5,930ล้านบาท ลดลงร้อยละ 1.7 จะเห็นได้ว่าไม่ใช่ข้อเท็จจริงเมื่อ มาดูแยก ส่วนของพ.ร.บ.งบประมาณต้องไปดูกองทุนต่างๆกองทุนสะสมที่ใช้ประโยชน์ตรงนี้จะเห็นได้ว่างบประมาณของกระทรวงกลาโหมน้อยกว่ากระทรวงสาธารณสุขโดยภาพรวม
ในเรื่องของวัคซีนการบริหารจัดการต่างๆตนเองอยากทราบว่าจะมีการบริหารสถานการณ์ได้ดีกว่าที่ทำอยู่ในทุกวันนี้หรือไม่ ยืนยันว่ารัฐบาลทำอย่างโปร่งใส ทั่วถึง เป็นธรรมแต่ทั้งหมดก็เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายเป็นไปตามการจัดสรรวัคซีนการให้บริการฉีดวัคซีนซึ่งวันนี้ตนก็จะไปตรวจเยี่ยม จุดฉีดวัคซีนด้วย ซึ่งจะทำให้ดีที่สุด
และวันนี้มีภารกิจอื่นที่จะต้องดำเนินการแก้ปัญหานี้ แต่ยืนยันว่าในเดือนมิถุนายนนี้จะมีวัคซีนเข้ามาอย่างเพียงพอ ทั้งวัคซีนที่รัฐบาลจัดหาและวัคซีนทางเลือก แต่ไม่ว่าจะจัดหาอย่างไรก็ต้องเข้ามาในช่องทางการติดต่อขึ้นทะเบียนโดยบริษัทที่ได้รับมอบหมายเป็นตัวแทนของบริษัทใหญ่จะต้องมาติดต่อกับอย.เพื่อจะรับรองมาตรฐานและขอให้การนำเข้าซึ่งวันนี้มีการอนุมัติการนำเข้าอีกช่องทางหนึ่งแล้ว
“การบริหารงบประมาณ ได้พิจารณาอย่างเข้มงวด รัดกุม ด้วยการยืนยันว่าตนเองไม่ได้นั่งดูแต่ข้อมูลแต่จะลงไปดูในรายละเอียดและให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงไปดูและนำข้อมูล ทั้งหมด มาแก้ปัญหาด้วยตัวเอง ให้แต่ละหน่วยงานเข้าไปแก้ไข ตามหลักการของกฎหมาย ทั้งหมด นั่นคือการทำงานในระบอบประชาธิปไตยของผม ยืนยันวันนี้ไม่มีการทุจริตในงบประมาณต่างๆในรัฐบาลของผม ผมย้ำว่ารัฐบาลผม”