วันที่ 28 พ.ค.64 เวลา 13.30 น. ที่อาคารสโมสร Cat Auditorium ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมถลงข่าวการบูรณาการความร่วมมือแนวทางการจัดสรรและนำเข้าวัคซีนโควิดทางเลือก “ซิโนฟาร์ม” โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ,ศ.นพ.นิธิ มหานนท์ เลขาฯราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ,พล.อ.ต.นพ.สันติ ศรีเสริมโภชน์ รองเลขาฯราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการองค์การอาหารและยา ร่วมแถลงข่าว
ศ.นพ.นิธิ มหานนท์ กล่าวว่า จากการแพร่ระบาดเชื้อโควิด19 ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้เล็งเห็นถึงการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อให้เร็วที่สุด เพื่อให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไปได้ สำหรับความร่วมมือการนำวัคซีน ซิโนฟาร์ม ระหว่างราชวิทยาลัย กับกระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา นั้น มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริม สนับสนุน ประสานความร่วมมือเพื่อให้การกระจายวัคซีนนี้ได้มีประสิทธิภาพและตรงเป้า
โดยขณะนี้วัคซีนซิโนฟาร์ม ที่องค์การอนามัยโลกได้ให้การรับรองแล้ว ทางจุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย จึงได้ประสานงานบริษัท ที่ผลิตวัคซีน ซิโนฟาร์ม ที่ประเทศจีน และได้มอบหมายให้บริษัทโลจิสติกที่นำเข้าและจัดเก็บวัคซีน ซึ่งบริษัทนี้ได้ดำเนินการเรื่องนี้กับวัคซีนอื่นๆอยู่แล้ว บริษัท ไบโอเจเนเทค ดำเนินการช่วยราชวิทยาลัย ได้ขอใบอนุญาตขึ้นทะเบียนทางอาหารและยา ซึ่งเมื่อได้รับการอนุมัติแล้วก็จะนำเข้า จัดสรร กระจายวัคซีน ซึ่งต้องทำงานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ในการกระจายไปยังองค์กรภาครัฐ เอกชน ที่มีความต้องการวัคซีน
ภารกิจในการจัดหาวัคซีนทางเลือก อยู่ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างกระทรวงสาธารณสุข และองค์การอาหารและยาเพื่อทำงานกันแบบคู่ขนานกับวัคซีนที่รัฐบาลจัดสรร โดยเราจะไปช่วยดูว่ามี องค์กรไหน พื้นที่ไหนที่มีความต้องการ และไม่ซ้ำซ้อนกับรัฐบาล เราจะได้ประสานงานดำเนินการ เพื่อช่วงแบ่งเบาภาระของทางการราชการอีกทางหนึ่งด้วย
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข และ สถานบันแพทย์ จุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย เราได้ร่วมมือกัน แลกเปลี่ยนสนับสนุนข้อมูลมาโดยตลอด วันนี้ได้รับทราบว่าราชวิ ได้ตกลงกับ บริษัท ที่ยื่นขอจดทะเบียนวัคซีนทางเลือก “ซิโนฟาร์ม” ซึ่งเป็นข่าวดีของประชาชน ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบายเรื่องวัคซีนทางเลือก สำหรับผู้ที่ไม่ใช่รัฐบาล เพื่อความสะดวกสบายของการเข้ารับการฉีด ซึ่งทางราชวิทยาลัยฯ ได้ดำเนินการ โดยทาง บริษัท ไบโอเจเนเทคได้ยื่นเอกสาร เพื่อขอจดทะเบียนกับ องค์การอาหารและยามาพอสมควร และล่าสุด วัคซีน ซิโนฟาร์ม ได้รับการรับรอง อนุมัติขึ้นทะเบียนวัคซีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
กระทรวงสาธารณสุข ขอขอบคุณ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ที่ได้จัดจุดฉัดวัคซีน โดยการแบ่งเบาภาระของรัฐบาลมาโดยตลอด โดยเฉพาะประชาชนในชุมนุมเป็นจำนวนมาก สำหรับการดำเนินการเรื่องวัคซีนทางเลือกทั้งหมดอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย และผลประโยชน์ของประเทศชาติ ในการจัดการเรื่องวัคซีนทางเลือกเพื่อช่วยสนับสนุนรัฐบาล
นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาฯอย. ถือเป็นข่าวดี ที่วัคซีน ซิโนฟาร์ม ถือเป็นตัวที่ 5 ที่ อย.ได้อนุมัติรับรองไป ซึ่งวัคซีน ซิโนฟาร์ม เป็นวัคซีนเชื้อตาย ใช้ 2 เข็ม โดยจะฉีดห่างกัน 21-28 วัน ในส่วนของ ไบโอเจเนเทค ที่นำมาขึ้นทะเบียน ใช้จากที่ผลิตขึ้นที่ สถาบันชีววัตถุ กรุงปักกิ่ง ในประเทศจีน พัฒนาโดย Beijing Institutd of biological Product เพราะจริงๆ ซิโนฟาร์มจะมีการผลิตหลายๆไซต์ และไซต์นี้ได้รับการรับรองจาก องค์การอนามัยโลก EUL หรือ Emergency Use Listing
การขึ้นทะเบียนกับอย.ของ ซิโนฟาร์ม จะมีความปลอดภัย ที่ได้รับนั้นถือว่าเป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลจึงสามารถรับรอง สำหรับเวลาในการขึ้นทะเบียนจะช้าหรือเร็วจะอยู่ที่เอกสารที่ทางบริษัท ขอขึ้นทะเบียนได้ครบตามที่ยื่นไป who ก็จะได้รับการพิจารณาได้เร็ว
ในช่วงท้ายของการแถลงข่าวจะเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ซักถาม
ทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จะนำเข้าวัคซีนซิโนฟาร์มจำนวน 1 ล้านโดส ในเดือนมิถุนายน แต่ยังไม่ระบุวันที่ได้ ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับขั้นตอนการขนส่งอีกครั้ง ซึ่งเป็นวัคซีนทางเลือกไม่ใช่วัคซีนหลัก ของทางรัฐบาลแต่อย่างใด ประชาชนทั่วไป ไม่สามารถจะเดินมาฉีดได้ตามปกติ แต่จะเป็นการติดต่อประสานงานรูปองค์กร ภาครัฐหรือเอกชน
ส่วนราคาจะอยู่ระหว่างการตกลงกับบริษัทผู้ผลิตที่ประเทศจีนขึ้นอยู่กับปริมาณการสั่ง รวมค่าขนส่ง ค่าจัดเก็บ ก็จะถือเป็นราคาต้นทุน ทางเราไม่ได้ค้ากำไรในเรื่องนี้
ส่วนเมื่อทำการฉีดแล้วก็จะมีการเก็บข้อมูลเพื่อทำการวิจัย ตรวจภูมิคุ้มกันว่ามีมากเพิ่มขึ้นเท่าใด และต้านเชื้อได้มากเท่าใด
ส่วนเรื่องแผนการกระจายวัคซีนนั้น ถ้ารู้จำนวนแน่นอน จะแจ้งไปทางสาธารณว่าจะมีการนำวัคซีนนี้ไปใช้ในกลุ่ม หรือหน่วยงาน ซึ่งมีเอกชนที่ติดต่อมาแล้ว โดยจะรวมค่าประกันอยู่ในวัคซีนที่ขายออกไปแล้ว ตอนนี้มีสภาอุตสาหกรรมและ ปตท.ที่แจ้งมาแล้ว
ส่วนคำถามว่า ทางราชวิทยาลัย จะนำวัคซีนชนิดอื่นอีกหรือไม่ ต้องเรียนว่าเราเป็นสถาบันวิจัยที่เป็นหลัก ในส่วนนี้เราหาข้อมูลว่า จะมีวัคซีนตัวไหนที่ระงับยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อได้ เราก็จะศึกษาและในอนาคตก็น่าจะนำมาแน่นอน ซึ่งอยากให้มองเหมือนวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ซึ่งต้องมีวัคซีนเกินคน คนอยากจะไปฉีดตรงไหนต้องได้ฉีด เพื่อให้การกระจายวัคซีนไปทั่วประเทศไทยอย่างเหมาะสม
ในภาครัฐ หน่วยงานจังหวัด การจัดซื้อได้เลยหรือไม่
พล.อ.ต.นพ.สันติ กล่าวว่า หน่วยงานราชการเช่น อปท.มีการติดต่อมาเพื่อให้ช่วยจัดซื้อเบื้องต้น สำหรับการกระจายที่ไม่ครอบคลุม ซึ่งอยู่ระหว่างคุยรายละเอียด ส่วนเอกชน ก็ติดต่อมา เพราะเราเพิ่งมีการวางแผนกันอีกต่อไป
