สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า นายกรัฐมนตรีอนา เบอร์นาบิช ของเซอร์เบีย ประกาศว่า ได้ทำตามข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ประท้วงสิ่งแวดล้อม ทำการยกเลิกใบอนุญาตประกอบกิจการเหมืองสำรวจแร่ลิเทียมของบริษัท ริโอ ทินโต ยักษ์ใหญ่ในธุรกิจเหมืองของโลก สัญชาติออสเตรเลีย มูลค่า 2,400 ล้านดอลลาร์ (หรือเกือบ 8 หมื่นล้านบาท)
ด้านริโอ ทินโต ก็ออกมาแถลงเช่นกันว่า การตัดสินใจใดๆ ควรมาจากการหารือและเจรจาบนข้อเท็จจริง ทางบริษัททุ่มเทให้กับการพัฒนาโครงการร่วมกับเซอร์เบีย และระเบียบข้อบังคับระหว่างประเทศ การที่รัฐบาลเซอร์เบียทำเช่นนี้ เป็นเรื่องน่าวิตกอย่างยิ่ง และทางบริษัทจะดำเนินวิธีการทางกฎหมายต่อไป
ในส่วนของสื่ออื่นอย่างเดลิเมล์นั้น ได้มีการตั้งข้อสังเกตว่า การยกเลิกใบอนุญาตดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศ เมื่อทางการออสเตรเลียเนรเทศ โนวัก โยโควิช นักเทนนิสมือหนึ่งของโลก ชาวเซอร์เบีย เพราะไม่ฉีดวัคซีนโควิด ทั้งที่รัฐบาลเซอร์เบียทักท้วงไปแล้ว
นอกจากประเด็นโยโควิช ยังมีเรื่องของการเมืองรวมอยู่ด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเลือกตั้งทั่วไปที่กำลังจะมีขึ้นเดือนเมษายนนี้ รวมถึงเรื่องที่เซอร์เบียยังแสดงตัวว่ามีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับจีนและรัสเซีย แม้ว่าอยู่ระหว่างการสมัครเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป จึงถูกจับตามองว่าอาจมีการส่งต่อเรื่องเหมืองให้จีนดำเนินการแทน
สำหรับบริษัทริโอ ทินโต มีประวัติการดำเนินกิจการเหมืองมานาน 150 ปี โดยบริษัทพยายามขยายกิจการเหมืองไปทั่วโลกเพื่อหาพลังงานสีเขียวเพิ่มขึ้น รวมถึงลิเทียมที่ใช้ในแบตเตอรี่รถยนต์หรือพาหนะพลังงานไฟฟ้าอื่นๆ ซึ่งถ้าเหมืองได้ดำเนินกิจการในเซอร์เบีย ก็คาดว่าจะผลิตลิเทียมที่ไว้ใช้ทำแบตเตอรีได้ถึง 58,000 ตันต่อปี และจะทำให้เซอร์เบียเป็นผู้ครองเหมืองผลิตลิเทียมที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปได้