วันนี้ (27 พ.ค.64) พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส เปิดเผย กรณีอาวุธปืน AK102 ของ กองร้อย อส.ที่ 2 อ.เมือง จ.นราธิวาส จำนวน 28 กระบอกได้สูญหายไป ว่า คดีที่ต้องดำเนินการมี 28 กระบอก ส่วนอำเภออื่นๆ ได้ตอบคำถามไปแล้ว ว่า ได้ดำเนินคดีไปทั้งหมดแล้ว เป็นคดีลักษณะ อส.ถูกยิง แล้วคนร้ายขโมยเอาอาวุธปืนไป ส่วนอาวุธปืน 28 กระบอก ได้คืนแล้ว 6 กระบอก เหลือ 22 กระบอก ซึ่งกำลังดำเนินการ ซึ่งเมื่อช่วงเช้าได้มีการประชุมวางแผนการสอบสวน ในประเด็นการสอบสวนตอนนี้พอทราบแล้วว่าใครต้องมาให้การบ้าง และต้องตอบคำถามว่าอาวุธปืนหายไปไหน ตอนนี้คิดว่าอาวุธปืนที่หายไปส่วนใหญ่น่าจะเป็นลักษณะของการเอาไปจำนำ ซึ่งต้องตามสืบต่อไปว่าใครเป็นคนครอบครองคนสุดท้าย และในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ทางฝ่ายปกครองจะรวบรวมหลักฐานเอกสารมาให้ จึงจะเริ่มดำเนินการสอบสวนอย่างจริงจัง
ผู้สื่อข่าวได้มีการพูดคุยนอกรอบกับ พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส ทราบว่า ในช่วงเช้าของวันนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกองกำกับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส เข้าควบคุมตัวนายฮาซัน สาแม เจ้าหน้าที่สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน อ.เมืองนราธิวาส ที่บ้านพักในพื้นที่ ต.มะนังตายอ อ.เมือง จ.นราธิวาส ซึ่งเป็น 1 ในผู้ต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับอาวุธปืน Ak102 ของกองร้อย อส.ที่ 2 ได้หายไป และเจ้าหน้าที่มาทำการสอบสวนขยายผล จนนายฮาซัน สาแม ให้การรับสารภาพว่า ได้นำอาวุธปืนไปขายจริง แต่ พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส ไม่ได้ให้ข้อมูลลงในรายละเอียดมากนัก เกรงจะมีผลและแนวทางในการสืบสวนสอบสวนหาต้นตอที่เหลือ
ส่วนแหล่งข่าวระดับสูงที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวนสอบสวนในเรื่องอาวุธปืนที่หายไปนั้น ให้ข้อมูลว่า อาวุธปืนที่หายนั้นได้ตกไปอยู่ในบุคคล 2 กลุ่ม คือ กลุ่มเครือข่ายค้ายาเสพติด และกลุ่มสมาชิกแนวร่วม โดยเฉพาะกลุ่มหลังนี้ หลังจากเจ้าหน้าที่ได้วิสามัญคนร้ายเสียชีวิต และสามารถตรวจยึดอาวุธปืนของคนร้ายไว้ได้ มักพบว่าคนร้ายจะใช้อาวุธปืนของทางราชการในการเคลื่อนไหวก่อเหตุเกือบทั้งสิ้น