หลังจากที่กลายเป็นกระแสในโลกออนไลน์ เมื่ออินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังอย่าง มิ้นท์ I roam alone ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอ รีวิวการเดินทางไปยังสหรัฐอเมริกา เพื่อฉีดวัคซีนป้องกันโควิด โดยได้ฉีดยี่ห้อไฟเซอร์ พร้อมบอกว่าที่สหรัฐอเมริกาฉีดฟรีสำหรับทุกคน ที่ฉีดเต็มไปหมด ง่ายมากแค่ 5 นาทีก็เสร็จ
ล่าสุดมีความเห็นจาก ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ เจริญขวัญ แพรกทอง บลาฮาสสกี้ ซึ่งเป็นของนางเจริญขวัญ แพรกทอง บลาฮาสสกี้ นักเขียน และคนไทยในอเมริกา ที่โพสต์ข้อความหัวข้อ “ถามมา ตอบไป การฉีดวัคซีนในอเมริกา” โดยประเด็นสำคัญ อาทิ
1. เลือกวัคซีนได้จริงหรือ
วัคซีนในอเมริกา มีให้เลือก ไฟเซอร์ โมเดอร์นา และจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน รวมทั้งหมดเป็น 3 ยี่ห้อ เราสามารถเลือกได้จาก 1 ใน 3 ถ้าอยากเลือกวัคซีนจากจีนหรือรัสเซียก็ไม่สามารถทำได้ เพราะไม่มีให้เลือก อีกประเด็นคือ ตอนที่เริ่มฉีดให้พลเมืองอเมริกันในช่วงแรก องค์การอนามัยโลกยังไม่ได้อนุมัติไฟเซอร์ โมเดอร์นา รวมทั้งจอห์นสันแอนด์จอห์นสันด้วย เรียกว่าฉีดก่อน อนุมัติทีหลังทั้งสามยี่ห้อ
2. การกระจายวัคซีนถึงประชาชน
รัฐบาลโจ ไบเดน ตั้งเป้าฉีดให้ได้ 100 ล้านโดสใน 100 วันแรก ในตอนแรกใช้รูปแบบการลงทะเบียนจองฉีดแบบเดียวกับที่ใช้ในไทย กำหนดให้คนอายุ 60 ปี และคนที่มีโรคประจำตัวฉีดก่อน แต่เมื่อลงทะเบียนแล้วต้องรออีกนาน บางทีก็ไม่มีคำตอบจากเลขหมายที่ท่านเรียก จนต้องย้ายไปลงทะเบียนที่อื่น ซึ่งเจอมากับตัวเอง ถามว่าเลือกวัคซีนได้ไหมตอนลงทะเบียน ขึ้นอยู่กับการจัดการแต่ละรัฐแต่ละเมือง บางรัฐไม่ให้เลือก ลงทะเบียนแล้วมีอะไรก็ฉีดไปตามที่ได้โควตามา
3. จริงไหมที่ฉีดวัคซีนฟรีในอเมริกา
คนไทยหลายคนบินไปฉีดวัคซีน “ฟรี” ที่อเมริกา แต่วัคซีนที่ว่าฟรีนั้นเป็น “ฟรีทิพย์” เพราะไม่ได้ฟรีจริง เนื่องจากวัคซีนทุกขวดมาจากภาษีพลเมืองอเมริกัน ค่าวัคซีนแต่ละเข็มมีราคาที่พลเมืองอเมริกันต้องจ่าย หากใครมีประกัน ร้านหรือห้างที่ฉีดวัคซีนจะไปเบิกกับบริษัทประกันที่เราซื้อประกัน ตอนฉีดพนักงานฉีดขอดูบัตรประกันรัวๆ ส่วนกรณีไม่มีประกัน ใบเสร็จค่าวัคซีนจะถูกส่งไปเรียกเก็บเงินกับรัฐบาลและ Medicare ที่เป็นหน่วยงานของรัฐ ซึ่งคนทำงานมีรายได้อย่างพวกทำงานบริษัทจะต้องถูกหักรายเดือนเพื่อสมทบ Medicare ส่วนพวกที่ทำธุรกิจส่วนตัวก็ต้องควักเงินซื้อประกันอันแพงนรกแตกเอง ดังนั้นวัคซีนฟรีที่ชื่นชมกันนั้น จึงไม่ได้ฟรีจริง ที่โหดกว่านั้น นับจากนี้ไปพลเมืองอเมริกันจะต้องควักเงินจ่ายภาษีมากกว่าเดิม เพื่อแบกรับภาระส่วนนี้ในอนาคต
4. ไปอเมริกาแล้วฉีดได้เสร็จใน 5 นาทีจริงเหรอ
การจะไปอเมริกาได้จะต้องมีวีซ่าอเมริกาในมือ ก่อนจะได้ฉีดวัคซีนจะต้องมีการลงทะเบียนจองก่อนไปฉีด ส่วนมากจะให้เพื่อนที่อยู่อเมริกาจัดการให้ นั่นคือระยะแรก แต่ระยะหลัง บางแห่ง บางรัฐ เริ่มมีการเปิดให้เดินไปขอฉีดได้ เพราะยอดฉีดเริ่มไม่พุ่ง ช่วงนี้จะว่าง เพราะคนฉีดกันไปเยอะแล้ว ทำให้ภาพที่ออกมาตามสื่อดูชีวิตดี๊..ดี แต่หากรวมขั้นตอนการลงทะเบียน คงบอกไม่ได้ว่าจบในห้านาที
5. หลายคนอ้างว่าอเมริกันฉีดครบหมดทุกคนทุกรัฐแล้วจริงหรือ
ข้อมูลวันนี้ 26 พฤษภาคม 2021 พลเมือง 50 % ฉีดหนึ่งเข็ม ส่วนพลเมือง 39 % ฉีดครบสองเข็ม เน็ตไอดอลบางคนบอกว่าคนอเมริกันฉีดครบหมดแล้วทุกคนทุกรัฐ ทางการอเมริกันถึงประกาศให้ชาติอื่นๆ เข้ามาฉีดวัคซีนในอเมริกา เรื่องนี้ไม่มีการประกาศจากทางการแต่อย่างใด พวกที่มาคือจงใจจะเข้ามาฉวยประโยชน์จากอเมริกา อาศัยช่องโหว่ตรงนี้มาเอาประโยชน์
6. บางคนบอกว่าต้องกล่าวโทษรัฐบาลไทยที่ทำคนตายเยอะมาก งั้นลองเทียบกับอเมริกาดูก็แล้วกัน แบบนี้ทรัมป์กับไบเดนต้องลาออกไหม
ยอดป่วยสะสมและยอดตายในอเมริกา วันที่ 26 พฤษภาคม 2021 ป่วยสะสม 33,967,669 ราย ตาย 606,126 ราย ยอดตายต่อพลเมืองหนึ่งล้านคือ 1,831 ราย ในขณะที่เมืองไทยยอดตาย 12 รายต่อพลเมืองหนึ่งล้าน รัฐที่ป่วยและตายสูงสุดคือ แคลิฟอร์เนีย เทกซัส ฟลอริดา นิวยอร์ก และอิลลินอยส์
7. ยอดการฉีดวัคซีนในรัฐที่ฮิตไปฉีดกันคือนิวยอร์กกับแคลิฟอร์เนีย
รัฐแคลิฟอร์เนีย – พลเมืองที่ฉีดครบสองโดสคิดเป็น 41 เปอร์เซ็นต์
รัฐนิวยอร์ก – พลเมืองที่ฉีดครบสองโดสคือ 45 เปอร์เซ็นต์ สรุปว่ายังไม่ถึงครึ่งทั้งสองรัฐ
เห็นเน็ตไอดอลสายบิวตี้ที่บินไปฉีดบอกว่า ดูสิ ผู้คนในแคลิฟอร์เนียถอดหน้ากากใช้ชีวิตปกติกันแล้ว ที่พูดแบบนี้เพราะไม่รู้ว่าอเมริกันแทบจะไม่ยอมใส่หน้ากากกันเลย จนต้องออกกฎบังคับ ถึงมีกฎแล้วก็ยังไม่ค่อยยอมใส่นัก
8. มาแล้วไป…ทิ้งผลกระทบไว้ให้คนไทยในอเมริกา
การที่คนไทยบินมาฉีดวัคซีนที่คิดว่า “ฟรี” ส่งผลกระทบต่อคนไทยในอเมริกา ขณะนี้กระแสเกลียดเอเชียน่ากลัวมากถึงมากที่สุด พวกคุณมาฉีดแล้วจากไป แต่คนที่ต้องอยู่อย่างหวาดกลัวคือคนไทยที่นี่ คิดหรือว่าอเมริกันจะแฮปปี้ใจกว้างทุกคนที่รับรู้ว่ามีคนที่ไม่ใช่พลเมืองประเทศตนเข้ามาหาประโยชน์จากตรงนี้ คนไทยถูกทำร้ายในอเมริกาในหลายรัฐ จนกงสุลไทยออกมาประกาศเตือน ล่าสุดกงสุลชิคาโกออกประกาศว่ามีคนอเมริกันทำร้ายคนไทยในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม
