สายส้มตำจ่อควักตังเพิ่ม หลังมะละกอ ราคาพุ่ง ถุง 10 กิโล จาก 60 – 70 เป็น 220 – 300 ขึ้นแบบก้าวกระโดด 4-5 เท่า แม่ค้าวอนภาครัฐเร่งแก้ไขหากแพงกว่าคงต้องปรับราคาตามวัตถุดิบเดือดร้อนคนรายได้น้อยอย่างหนักกับวิกฤตข้าวยากหมากแพง ที่ทั้งข้าวปลาอาหาร พากันแห่ขึ้นราคาไม่ว่าจะเป็นผัก เนื้อสัตว์ หรือไข่ไก่ ที่ดูเหมือนจะเป็นการซ้ำเติมวิกฤตโควิด ที่มีประชาชนตกงานนับล้าน ซ้ำยังมาเจอเหตุการณ์น้ำท่วมทำให้ผักขึ้นราคาไปแล้วระลอกหนึ่ง กระทั่งล่าสุด หมูแพงเป็นประวัติการณ์ ในขณะนี้ มะละกอก็ขึ้นราคามากสุด ถุง10กิโล มีราคา 220-300บาท
เมื่อเวลา 17.00น. วันที่ 15 ม.ค. 65 ทีมผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บริเวณ ถนนศรีราชานคร ตำบลศรีราชา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เพื่อสอบถามราคามะละกอจากพ่อค้าแม่ขายส้มตำร้านป้าเพียร ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับแม่ค้าถึงราคาค่ามะละกอ หมู ไก่ในตอนนี้ พบว่าในช่วงนี้แม่ค้าต้องลงทุนมากกว่าเดิมแต่รายรับที่ได้กับน้อยลง น.ส.รัตนาพรรณ คำทอง อายุ 39 ปี เจ้าของร้านส้มตำป้าเพียร เปิดเผยว่า สินค้าค่อนข้างแพงมากต้นทุนเราก็เพิ่มขึ้นแล้วก็กำไรที่เราได้รับมันก็น้อยลงคถามว่ามีผลกระทบไหมก็กระทบเยอะอยู่สำหรับสถานการณ์ covid ช่วงนี้นะค้าขายก็ลำบากแล้วก็ลูกค้าก็น้อยลงแล้วก็กำลังซื้อกำลังซื้อก็ลดน้อยลงราคาสินค้าค่อนข้างแพงปกติ 100 กว่าบาทไม่ถึง 200 ค่ะซึ่งตอนนี้ 200 กว่าบาทจะอยู่เกือบ 300
เราเพิ่มราคาค่าอาหารไม่ได้ถ้าเราเพิ่มค่าอาหารก็คือเราก็ต้องเสียลูกค้าไม่ใช่ว่าวันนี้ราคาสินค้าเพิ่มมากขึ้นแล้วเราจะมาเพิ่มปรับเปลี่ยนราคาอาหารขึ้นทุกวันมันเป็นไปไม่ได้เพราะว่าเราต้องขายเพื่อที่จะเอาลูกค้ากลุ่มลูกค้าเราลูกค้าประจำลูกเราต้องเอาลูกค้าไว้ก่อนนะค่ะเราจะมาเพิ่มราคาสินค้าทุกวันทุกวันไม่ได้มันทำให้เราเสียลูกค้าอยากให้ภาครัฐเข้ามาควบคุมควบคุมราคาสินค้าค่ะอย่าให้มันสูงมากอย่าให้มันแพงมากให้เราไว้สำหรับการลงทุนในแต่ละวันของเราอยากให้ต้นทุนการลงทุนลดน้อยลงกำไรน้อยลงดเราไม่ว่าแต่ที่ลงทุนเยอะกำไรน้อยเราก็ไม่ไหว
ภาพ/ข่าว จารุ สุขศรี ชำนาญ ใจเอื้อ ผู้สื่อข่าวTOPNEWS ประจำ จ.ชลบุรี