เว็ปไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564
โดยสาระสำคัญคือ มาตรา 3 เพื่อประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้กระทรวงการคลังโดยอนุมัติคณะรัฐมนตรี มีอำนาจกู้เงินบาทหรือเงินตราต่างประเทศ หรือออกตราสารหนี้ ในนามรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย มีมูลค่ารวมกันไม่เกิน 5 แสนล้านบาท โดยต้องลงนามในสัญญากู้เงิน หรือออกตราสารหนี้ ภายในวันที่ 30 กันยายน 2564 ขณะที่มาตรา 5 บัญญัติให้ การกู้เงินตามพระราชกำหนดนี้ต้องนำไปใช้ในการแก้ไขปัญหาการระบาดของไวรัสโควิด-19 , เพื่อช่วยเหลือเยียวยา และชดเชยให้แก่ประชาชนทุกสาขาอาชีพ ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 และเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้มาตรา 6 กำหนดว่า การกู้เงิน ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติเท่าที่จำเป็น โดยคำนึงถึงขีดความสามารถของรัฐในการชำระหนี้คืนด้วย ส่วนมาตรา 7 ให้คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดกู้เงิน 1 ล้านล้านบาท มีหน้าที่และอำนาจในการพิจารณากลั่นกรองเพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณา
ทั้งนี้บัญชีแนบท้ายของพระราชกำหนดฉบับนี้ ได้กำหนดแผนงานโครงการการใช้เงินกู้ดังนี้ 1.เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ยารักษา วัคซีน และการวิจัยพัฒนาผลิตวัคซีนในประเทศ รวมทั้งการปรับปรุงสถานพยาบาลสำหรับรักษาผู้ป่วยโควิด-19 และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข วงเงิน 3 หมื่นล้านบาท 2.เพื่อใช้จ่ายในการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน และช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพทุกสาขาอาชีพ วงเงิน 3 แสนล้านบาท และ 3.ใช้จ่ายสำหรับแผนงานหรือโครงการเพื่อรักษาระดับการจ้างงานของผู้ประกอบการ กระตุ้นการลงทุน และการบริโภคในระบบเศรษฐกิจของประเทศ วงเงิน 1.7 แสนล้านบาท
สำหรับพระราชกำหนดกู้เงิน 5 แสนล้าน ฉบับนี้ ได้ถูกปรับลดวงเงินการกู้ จากเดิมที่กำหนดไว้ 7 แสนล้านบาท