โดยองค์การอนามัยโลกหรือ WHO เริ่มต้นการประชุมสมัชชาอนามัยโลกประจำปี ที่เจนีวา แต่ไต้หวันไม่ได้รับการเชิญเข้าร่วมประชุม ด้วยเหตุผลที่ว่าได้รับแรงกดดันจากจีน
นายเฉิน ซือ ชุง รัฐมนตรีสาธารณสุข และ นาย โจเซฟ หวู่ รัฐมนตรีต่างประเทศ ของไต้หวัน ได้ออกมาตำหนิต่อความนิ่งเฉยขององค์การอนามัยโลกครั้งนี้ว่า ในฐานะที่เป็นองค์กรด้านสุขภาพระหว่างประเทศ องค์การอนามัยโลกควรให้บริการด้านสุขภาพและสวัสดิภาพของมนุษย์ทั้งหมดโดยไม่มีเรื่องของผลประโยชน์ทางการเมืองกับสมาชิกมาเกี่ยวข้อง
ก่อนหน้านี้ นายแอนโทนี่ บริงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐได้กล่าวไว้ในการประชุม G7 ที่ผ่านไปเมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคมว่า การยกเว้นไต้หวันจากการเข้าร่วมประชุมสมัชชาอนามัยโลกนับว่าเป็นอันตรายต่อความพยายามในเรื่องการควบคุมการแพร่ระบาดระดับโลกรวมไปถึงเรื่องวิกฤตด้านสุขภาพในอนาคต จึงควรเชิญไต้หวันเข้าร่วมประชุมในฐานะผู้สังเกตการณ์ แม้ว่าจีนจะมีการเตือนเรื่องการแสดงออกถึงการแบ่งแยกจากแผ่นดินใหญ่เป็นเรื่องไม่สมควร อย่างไรก็ดี ทุกประเทศที่เข้าร่วมประชุม G7 ต่างสนับสนุนที่จะให้ไต้หวันเข้าร่วมประชุมสมัชชาอนามัยโลกด้วย
ไต้หวันมักถูกกีดกันจากองค์กรระหว่างประเทศต่างๆ เนื่องจากมีการคัดค้านจากจีนว่าไต้หวันไม่ใช่ประเทศเอกราช โดยจีนอ้างว่าเกาะที่ปกครองตนเองแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของจีน แม้ว่าภายในไต้หวันจะมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งก็ตาม ซึ่งไต้หวันเอง ก็ไม่เคยยอมรับอำนาจอธิปไตยเหนือเกาะจีน