จากกรณีที่ นายประสิทธิ์ เจียวก๊ก ประธานโครงการคืนคุณแผ่นดิน พร้อมทนายนำพยานเอกสารหลักฐานสำคัญเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน มีมูลค่าความเสียหายกว่า 1,000 ล้านบาท ก่อนเข้าพบพนักงานสอบสวน นายประสิทธิ์ เปิดเผยว่า เตรียมพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงมาชี้แจงกับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม หลังถูกออกหมายจับร่วมกับพวกรวม 6 คนในคดีที่ร่วมกันฉ้อโกงฯ โดยมั่นใจว่า มีข้อมูลสามารถชี้แจงและต่อสู้คดีตามกฏหมายได้ เพราะสิ่งที่พูดไปทั้งหมดเป็นข้อเท็จจริง โดยมั่นใจว่าส่วนตัวถูกกลั่นแกล้ง เพราะที่ผ่านมาส่วนตัวก็มีคดีความที่ตัวเองตกเป็นผู้เสียหาย สูญเงินไปกว่า 100 ล้านบาท
นายประสิทธิ์ ยังยอมรับว่า ที่ผ่านมาปัญหาสถานการณ์ โควิด – 19 ส่งผลกระทบกับธุรกิจการท่องเที่ยวของตัวเองอย่างมาก อีกทั้งยังถูกนำชื่อไปเชื่อมโยงกับประเด็นความขัดแย้งทางการเมือง จึงอยากให้สังคมแยกแยะระหว่างการระดมทุนทางธุรกิจ กับการทำธุรกิจแบบเครือข่าย ซึ่งส่วนตัวเชื่อมั่นว่า ยังมีคนที่มั่นใจในตัวเองอยู่ ซึ่งหากพบว่าตัวเองกระทำความผิดจริง ต้องรับโทษตามกฎหมายอยู่แล้ว
ขณะเดียวกัน ก็มีผู้เสียหาย ที่ตกเป็นเหยื่อ โดยนำเงินไปลงทุนกับสหกรณ์ออมทรัพย์ในเครือข่ายของนายประสิทธิ์ รวมแล้วเป็นเงินล้านกว่าบาท ให้สัมภาษณ์ว่า ช่วงแรกก็ได้เงินปันผลร้อยละ 15 ของการลงทุน ต่อมา ประมาณเดือนมกราคมที่ผ่านมา บริษัทที่ร่วมลงทุนไม่ยอมปันผลให้ตนเองจึงทวงถามไป แต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด ซึ่งเดือน 2 เดือนแรกก็พออยู่ได้ โดยการนำของออกไปขายมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน แต่ก็ยังไม่ได้รับเงินปันผล ตอนนี้ตนเองเดือดร้อนมาก นอกจากนี้มีผู้ร่วมลงทุนบางคนถึงกับเอาปืนไปขู่จะยิงตัวตายที่บริษัทของนายประสิทธิ์ก็มี ส่วนตัวอยากฝากถามนายประสิทธิ์ ว่า ที่นายประสิทธิ์ อ้างกับผู้สื่อข่าวว่า จำนวนคนฟ้องน้อยกว่าจำนวนคนไม่ฟ้องแต่คนที่ฟ้องนายประสิทธิ์จะเยียวยาและชดใช้คืนอย่างไร
ไม่เพียงแต่ผู้ร่วมลงทุนปกติ ยังมีสื่อมวลชนชื่อดัง คือ นางสาวนพขวัญ นาคนวล หรือจุ๋ม ปอยเด้ง ผู้สื่อข่าวช่องวัน และอดีตผู้สื่อข่าวช่อง3 ที่เดินทางมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม โดยจุ๋ม ปอยเด้ง บอกว่า ตนเองไปขอสปอนเซอร์จาก นายประสิทธิ์ ให้มาซื้อโฆษณาในรายการของตนเองที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง จากนั้นก็มีการตกลงซื้อโฆษณา เป็นจำนวนเงิน 1เเสนบาท แต่ยังไม่ได้มีการจ่ายค่าโฆษณา เมื่อรายการออกอากาศไปแล้ว ตนเองจึงไปทวงถามค่าโฆษณาแต่ก็ได้รับการบ่ายเบี่ยง ตนเองจึงต้องหาเงินมาจ่ายค่าโฆษณาให้กับทางช่องไปก่อน จากนี้ขอควาทเป็นธรรมให้ตนเองด้วย
อย่างไรก็ตาม มีผู้เสียหายจำนวนหนึ่ง ที่เดินทางมาให้กำลังใจนายประสิทธิ์ แม้ว่าจะหมดเงินลงทุน รวมแล้วกว่า 100 ล้านบาท โดยตัวแทนของผู้เสียหายที่ให้กำลังใจนายประสิทธิ์ บอกว่า ที่ผ่านมานายประสิทธิ์ไม่เคยหลบหนีหรือบ่ายเบี่ยงแต่พยายามชี้แจงตลอดว่าติดขัดส่วนไหน ถึงยังนำเงินมาจ่ายไม่ได้ เชื่อว่านายประสิทธิ์เป็นคนดีทำเพื่อชาติบ้านเมือง
ล่าสุด กลุ่มผู้เสียหายจากการลงทุนกับกลุ่มกองเชียร์ที่สนับสนุน ฝ่ายนายประสิทธิ์ เข้ามาเผชิญหน้ากัน ในระหว่างที่ตำรวจกองปราบปรามอยู่ระหว่างการสอบปากคำนายประสิทธิ์ โดยผู้เสียหายร่วมกันถือป้ายทวงเงินคืนอยู่ด้านหน้า ขณะที่มีหญิงสูงวัยซึ่งเป็นกลุ่มที่สนับสนุนนายประสิทธิ์ เดินเข้ามาสอบถามผู้เสียหายถึงการเข้าแจ้งความเพื่อเอาผิดนายประสิทธิ์ ก่อนที่หญิงผู้เสียหายจะตะโกนบอกไปว่า ถ้าบ้านและรถจะโดนยึด จะเป็นการด่วนสรุปหรือไม่ พี่ไม่เดือดร้อนพี่ก็เงียบ ๆ คนที่เดือดร้อนเท่านั้นที่เขามาฟ้อง ใช้คำว่ากี่เดือนเอง สี่เดือนนะ คุณรวยไม่มีสิทธิ์พูดแบบนี้
ด้านผู้เสียหายอีกราย นำเอกสารหลักฐานไปให้กลุ่มกองเชียร์ นายประสิทธิ์ และผู้สื่อข่าวดู พร้อมระบุว่า ไม่ได้จ่ายเงินจริง งานนี้มีคนเสียหายอีกเยอะแยะ โกงจริง หลอกจริง ต้มจริง ผลัดจริงเลื่อนจริง ไม่จ่ายจริง ไม่ได้รับจ้างมานะเป็นของจริง