No data was found

กรมราชทัณฑ์ ชี้แจง หลังยอดผู้ต้องขังติดโควิดพุ่งสูง

กดติดตาม TOP NEWS

กรมราชทัณฑ์ แจงยอดตัวเลขผู้ต้องขังติดโควิดในเรือนจำพุ่ง เนื่องจากมีการตรวจเชิงรุก 100% ย้ำดูแลและให้การรักษาอย่างเต็มที่

วันที่ 17 พ.ค. –นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ พร้อมด้วย นายแพทย์วีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และนางสาวโศรยา ฤทธิอร่าม ผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลาง ร่วมกันแถลงข่าว สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน ผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก ประชาสัมพันธ์ กรมราชทัณฑ์

นายอายุตม์ กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้ต้องขังอยู่กว่า 3 แสนคน และมีเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานกว่า 1.3 หมื่นคน ซึ่งตั้งแต่เกิดการระบาด กรมราชทัณฑ์ ได้ใช้นโยบายในการสกัดกั้นไม่ให้เกิดภาวะการติดเชื้อในเรือนจำ โดยสั่งห้ามเข้าออก, กักตัวผู้ต้องขังใหม่ กลับมาจากการรักษา หรือกลับมาจากไปศาล 14 วัน ก่อนจะปล่อยกลับเข้าแดนปกติ โดยจะมีการตรวจหาเชื้อโควิด 2 ครั้ง หากพบเชื้อ จะได้พาไปรักษา ซึ่งในการระบาดรอบแรก ติดไม่มาก แต่ก็เพิ่มขึ้นตามลำดับ ในช่วงของการระบาดรอบที่ 3 ในขณะนี้ ซึ่งสอดคล้องกับอัตราการติดเชื้อของประชาชนในประเทศด้วย

ซึ่งเรือนจำทั่วประเทศมีทั้งหมด 143 แห่งนั้น เป็นสถานที่ปิด ไม่มีคนเข้าออก น่าจะควบคุมโรคได้ง่าย แต่แท้จริงแล้ว เรือนจำมีเจ้าหน้าที่ต้องควบคุมผู้ต้องขังไปรักษา หรือขึ้นศาลบ้าง ขณะที่สภาพภายในเรือนจำ ค่อนข้างคับแคบ มีปริมาณนักโทษจำนวนมาก เกือบจะเข้าสู่นักโทษล้นคุก ดังนั้นในเรื่องของสุขภาพอนามัย และการป้องกันโรคติดต่อต่างๆ จึงทำได้อย่างจำกัด ซึ่งทางกรมราชทัณฑ์ยืนยันว่า จะดูแลผู้ต้องขังที่อยู่ในความดูแลอย่างดีที่สุด

ขณะที่สาเหตุที่มีรายงานผู้ติดเชื้อแบบก้าวกระโดดนั้น เป็นเพราะเมื่อพบเชื้อแล้ว จึงได้มีการตรวจหาเชิงรุก ตามแนวทางการสอบสวนโรค และจากรายงานพบว่า มีเรือนจำประมาณ 15 แห่งทั่วประเทศ ที่พบผู้ต้องขังป่วยโควิด ซึ่งกำลังดำเนินการแก้ไข ส่วนที่เหลือก็ได้ดำเนินการเฝ้าระวังอย่างเต็มที่ ส่วนผู้ต้องขังที่ติดเชื้อ ก็จะได้ทำการรักษาต่อไป จึงขอให้ประชาชนอย่าได้กังวลใจ หลังการติดเชื้อในเรือนจำ ที่มีอัตราการติดเชื้อมากกว่าภายนอกหลายเท่า เพราะเราอยู่กันอย่างแออัด ซึ่งเราจะได้ปูพรมในการตรวจหาเชื้อ ซึ่งคาดว่าอาจจะมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นอีก แต่อยากให้มั่นใจว่า ผู้ที่ติดเชื้อ จะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ส่วนเรื่องของยา ซึ่งมีข้อจำกัดจำนวนมาก ทางกรมราชทัณฑ์ได้รับการสนับสนุนในการจัดซื้อยาเพื่อให้โรงพยาบาลราชทัณฑ์ และเรือนจำทุกแห่งที่มีผู้ติดเชื้อ

อธิบดีกรมราชทัณฑ์กล่าวว่า ได้มีการจัดตั้งศูนย์ที่เป็นส่วนกลางขึ้นมาในการติดตามตัวเลขผู้ต้องขังที่ติดเชื้อ และรักษาหายแล้ว พร้อมสั่งให้เรือนจำทั่วประเทศ มีการจัดเจลแอลกอฮอล์ สบู่ฆ่าเชื้อโรค ไว้ให้ผู้ต้องขัง ที่สำคัญผู้บัญชาการเรือนจำ จะต้องบริหารงานให้ดีที่สุด ตัดสินใจให้เร็ว ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการคัดกรอง เอกซเรย์ปอดทุกคน และถ้าหากเจอเชื้อจะได้ให้ยาทุกคน และเฝ้าระวังเป็นพิเศษสำหรับผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ส่วนผู้ที่แข็งแรง แนะนำให้ออกกำลังกายเป็นประจำ

และในส่วนของเจ้าหน้าที่ ได้มีการสั่งให้ Swab ตรวจหาเชื้อ 100% ทุก 7 วัน ขณะที่ในเรือนจำที่ยังไม่พบผู้ติดเชื้อนั้น ให้ประสานสาธารณสุขจังหวัด ในการเข้าตรวจหาเชื้อทั้งหมดต่อไป ในส่วนของวัคซีนนั้น จะได้ทำการฉีดในเจ้าหน้าที่กว่าหมื่นคน พร้อมขอสนับสนุนเพิ่มเติมจากกรมควบคุมโรค ซึ่งจะฉีดให้ผู้ต้องขังครบทุกคนต่อไป พร้อมยืนยันว่า ไม่มีการปกปิดตัวเลขผู้ติดเชื้อแต่อย่างใด เนื่องจากหลังได้รับผลตรวจหาเชื้อโควิดแล้ว จะต้องคีย์ข้อมูลรายงานไปยังกรมควบคุมโรค สำหรับเรือนจำที่เฝ้าระวังในเขตกรุงเทพฯ มีอยู่ 8 เรือนจำ และยืนยันว่าจะรักษาดูแลผู้ต้องขังอย่างดีที่สุด แม้จะขาดบุคลากรทางการแพทย์ก็จะดูแลให้ดีที่สุด

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“วราวุธ” ยังไม่รับสัญญาณปรับครม.จากนายกฯ ลั่นไม่กลัวพรรครุ่นใหม่ มั่นใจทำงานสู้ได้
"สนามบินสุวรรณภูมิ" ขึ้นอันดับ 58 สนามบินดีที่สุดในโลกปี 2024 ขยับจากเดิม 10 อันดับ
"พิพัฒน์" เดินหน้าแก้ปัญหากองทุนประกันสังคม คุยบล.ญี่ปุ่นหาช่องเพิ่มรายได้ นำใช้เพิ่มประโยชน์แรงงาน
หักเหลี่ยม "คณะก้าวหน้า" ฮั้วสว.กระหายอำนาจสภาสูง "ก้าวไกล" ดิ้นเฮือกสุดท้ายยืดชะตายุบพรรค
ห้ามพลาด "กระทรวงเกษตรฯ" เชิญชวนลงทะเบียนออนไลน์ รับเมล็ดพันธุ์ข้าวพระราชทาน
"อช.ภูกระดึง" จัดงานประเพณีทำบุญตักบาตร สรงน้ำ-เปลี่ยนผ้า "พระพุทธเมตตา"
นายก อบต.ท่ากระดานจัดบิ๊กคลีนนิ่งช้างป่า 7 ตัว ที่กระเด็นจากโขลงเป็นภัยต่อชาวบ้าน
ชื่นชม ตำรวจช่วยหนุ่มคิดสั้นผูกคอลาโลก รอดตายหวุดหวิด
อิสราเอล-อิหร่าน พร้อมลดความรุนแรง
อิหร่านสงวนท่าที ยังไม่กล่าวหาอิสราเอล

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น