เมื่อเวลา 06.00 น.วันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 พ.ต.ต.ชาติคณิณพ์ อินทร์สอน สารวัตร ( สอบสวน ) สภ.พานทอง ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้ภายในบริษัท ซีเท็กซ์ อินดัสตรีคอร์ปอเรชั่น จำกัด เลขที่ 69-69/1 หมู่ 2 ถนนพานทอง-บ้านเก่า ตำบลพานทอง อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี จึงรายงานให้ พ.ต.อ.เอนก บุตรอินทร์ ผู้กำกับการ สภ.พานทอง ได้ทราบก่อนรุดเข้าตรวจสอบ พร้อมรถดับเพลิง จากเทศบาล, อบต. อบจ.ชลบุรี และรถดับเพลิงของนิคมอุตสาหกรรมอมตะนครซิตี้ ชลบุรี รวมกว่า 17 คัน ที่เกิดเหตุมีพบเป็นโรงงานผลิตโฟมเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ เป็นโกดังเก็บสินค้า 3 โกดัง ไฟได้ลุกไหม้ โกดังด้านขวามือ ซึ่งมีรถกระบะ ยี่ห้อมิตซูมิชิ ไทรตัน เตรียมบรรทุกสินค้า ที่มีทั้งกล่องโฟมใส่อาหารแก้วน้ำพลาสติก จำนวน 7 คันวอดเหลือแต่ซาก จากนั้นไฟได้ไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็วและลามเข้าไปภายในโรงงานโกดังสินค้า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งฉีดน้ำดับไฟเพื่อป้องกันไม่ให้ลามไปโกดังอื่น ขณะที่กำลังระดมฉีดน้ำดับเพลิง มีเสียงระเบิดจากถังแก๊สเป็นระยะๆโดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ ตรวจสอบพบไฟไหม้รถกระบะที่มารอรับสินค้าเสียหาย 7 คัน และโกดังสินค้าภายในมีสินค้ากล่องโฟมใส่อาหารและแก้วน้ำพลาสติกนั้นถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด
สอบถามนายถนอม ชัยวุฒิ อายุ 34 ปี เจ้าหน้าที่ รภป.เล่าว่าเมื่อช่วงเช้ามืดมีพนักงานจะเข้ามาเอารถกระบะไปส่งงานแล้วทางพนักงานได้ออดมาบอกว่ามีไฟไหม้รถกระบะจึงได้เอาถึงเคมีดับเพลิงไปช่วยกันดับแต่ไฟลุกลามอย่างรวดเร็วทำให้ถังเคมีเอาไม่อยู่จึงได้รีบแจ้งตำรวจและดับเพลิงให้มาดับแต่ไฟลุกไหม้รวดเร็วมากไหม้ลามไปอีกหลายโกดัง
สอบถามนายพิพรรธน์ ปิ่นแก้ว อายุ 33 ปี คนขับรถกระบะที่มารอรับสินค้า เผยว่า ตนเอารถมาจอดเรียงและได้เข้าไปแสกนลายนิ้วมือด้านในบริษัทพอออกมาเห็นรถคันแรก ริมสุดไฟกำลังลุกไหม้ และไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีลมกระโชกพัดมา ตนและเจ้าหน้าที่ รปภ.กับเพื่อนๆรีบเอาถังดับเพลิงภายในบริษัทมาฉีดดับไฟแต่ก็ไม่ดับ ไฟโหมลุกไหม้อย่างรวดเร็ว จึงได้แจ้งให้ตำรวจและรถดับเพลิงมาช่วยดับเพลิงดังกล่าว
ด้านเจ้าหน้าที่ดับเพลิง กล่าวว่าการดับเพลิงในครั้งนี้ไม่ยากแต่การทำงานค่อนข้างลำบากเพราะในโกดังมีถังแก๊สและโฟมเป็นฉนวนอย่างดี ทำให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็วทำให้ความร้อนเป็นวงกว้างแต่ก็สามารถดับเพลิงได้อย่างรวดเร็ว
เบื้องต้นทางเจ้าที่ตำรวจได้เก็บภาพในที่เกิดเหตุและรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานภาค 2 มาตรวจสอบสาเหตุอย่างชัดเจนอีกครั้ง ซึ่งจะให้เจ้าของบริษัทมาร่วมตรวจสอบ ด้วยและขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดภายในบริษัทว่าสาเหตุเพลิงไหม้ที่แน่ชัด ส่วนค่าเสียหายคาดเกินกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งยังประเมินราคาที่แท้จริงได้ ต้องรอให้ทางบริษัทตรวจสอบทรัพย์สินอีกครั้ง ต่อไป
วิศาล แสงเจริญ ผู้สื่อข่าว TOPNEWS จังหวัดชลบุรี